วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal
<p><strong>วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี</strong></p> <p><strong>E-ISSN:</strong> 3056-9125 (Online)</p> <h3><strong><u>กำหนดการเผยแพร่ 6 ฉบับต่อปี</u></strong></h3> <ul> <li>ฉบับที่ 1 มกราคม – กุมภาพันธ์ (กำหนดออกเดือนกุมภาพันธ์)</li> <li>ฉบับที่ 2 มีนาคม – เมษายน (กำหนดออกเดือนเมษายน)</li> <li>ฉบับที่ 3 พฤษภาคม – มิถุนายน (กำหนดออกเดือนมิถุนายน)</li> <li>ฉบับที่ 4 กรกฎาคม – สิงหาคม (กำหนดออกเดือนสิงหาคม)</li> <li>ฉบับที่ 5 กันยายน – ตุลาคม (กำหนดออกเดือนตุลาคม)</li> <li>ฉบับที่ 6 พฤศจิกายน – ธันวาคม (กำหนดออกเดือนธันวาคม)</li> </ul> <p><strong><span class="TextRun SCXW48558303 BCX8" lang="TH-TH" xml:lang="TH-TH" data-contrast="none"><span class="NormalTextRun SCXW48558303 BCX8" data-ccp-parastyle="Normal (Web)">นโยบายและขอบเขตการตีพิมพ์ : </span></span></strong><span class="TextRun SCXW48558303 BCX8" lang="TH-TH" xml:lang="TH-TH" data-contrast="none"><span class="NormalTextRun SCXW48558303 BCX8" data-ccp-parastyle="Normal (Web)">วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการในกลุ่มสาขาต่าง ๆ ดังนี้</span></span></p> <ul> <li>บริหารธุรกิจ</li> <li>การจัดการทั่วไป</li> <li>นิเทศศาสตร์</li> <li>การบัญชี</li> <li>เศรษฐศาสตร์</li> <li>การจัดการการโรงแรมและการท่องเที่ยว</li> <li>สาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง</li> </ul> <p><span class="TextRun SCXW48558303 BCX8" lang="TH-TH" xml:lang="TH-TH" data-contrast="none"><span class="NormalTextRun SCXW48558303 BCX8" data-ccp-parastyle="Normal (Web)">ซึ่งเป็นผลงานจากบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีและผู้เขียนจากหน่วยงานภายนอก เพื่อเป็นการเผยแพร่และส่งเสริมการนำผลการวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ทางวิชาการระหว่างคณาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย และบุคคลทั่วไป โดยบทความที่ได้รับการตีพิมพ์นั้น ล้วนผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะศาสตร์</span></span></p>
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (Faculty of Management Science, Udon Thani Rajabhat University)
th-TH
วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
3056-9125
<p><strong>บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี</strong></p> <p>ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้<br />ไม่ใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้จัดทำ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนบทความแต่ละท่าน</p>
-
การพัฒนาระบบตอบโต้สนทนาอัตโนมัติเพื่อให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในจังหวัดสุโขทัยสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/3393
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบตอบโต้สนทนาอัตโนมัติ (Chatbot) สำหรับให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในจังหวัดสุโขทัย โดยมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งมักประสบปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวผ่านช่องทางดิจิทัล ระบบที่พัฒนาขึ้นใช้ LINE Official Account (LINE OA) เป็นแพลตฟอร์มหลักในการให้บริการ โดยนำ Google Sheets และ Apps Script มาใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับจัดเก็บและเรียกคืนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง</p> <p>ระเบียบวิธีวิจัยประกอบด้วย 1) การศึกษาแนวทางการพัฒนา Chatbot สำหรับผู้สูงอายุ 2) การออกแบบและพัฒนาระบบตอบโต้สนทนาอัตโนมัติที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวก 3) การทดสอบระบบกับกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจำนวน 86 คนในอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยใช้แบบสอบถามและการสัมภาษณ์เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความพึงพอใจในการใช้งาน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ระบบตอบโต้สนทนาอัตโนมัติสามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยมีอัตราความพึงพอใจของผู้สูงอายุในระดับสูง ระบบช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะจากการทดสอบระบุว่าควรมีการพัฒนาเพิ่มเติมในด้านการรองรับคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นและการปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุมากขึ้น</p>
ธัญญรัตน์ ไชยวงศ์
วศิน เหลี่ยมปรีชา
ใกล้รุ่ง พรอนันต์
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
1
13
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารในแหล่งท่องเที่ยวไทยทรงดำ
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/2762
<p style="font-weight: 400;">เนื่องจากการท่องเที่ยวเชิงอาหารเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวหนึ่งที่มีแนวโน้มจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นในอนาคต การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาระดับการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นวัตกรรมอาหาร อัตลักษ์ชุมชน ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นวัตกรรมอาหาร อัตลักษณ์ชุมชน และผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารในแหล่งท่องเที่ยวไทยทรงดำ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดเลย กลุ่มตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เข้ามาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวไทยทรงดำ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดเลย จำนวน 502 คน สุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย พบว่า แหล่งท่องเที่ยวไทยทรงดำมีการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอยู่ในระดับมาก นวัตกรรมอาหารมีความสำคัญในระดับมาก หมู่บ้านไทยทรงดำมีความเป็นอัตลักษณ์ในระดับมาก การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในระดับมาก และนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารในระดับมาก ปัจจัยที่มีอิทธิพลเชิงบวกต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 เรียงลำดับความสำคัญตามขนาดของอิทธิพลได้ คือ นวัตกรรมอาหาร และการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งมีค่าอิทธิพลในรูปคะแนนมาตรฐานเท่ากับ 0.509 และ 0.287 ตามลำดับ โดยมี R<sup>2 </sup>= 0.736</p>
โชติกา นาคประสูตร
วารัชต์ มัธยมบุรุษ
พัตน์พิตตา ศรีสมพงษ์
นิรมล พรมนิล
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
14
29
-
ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อคุณค่าของตราสินค้าผลิตภัณฑ์ปลาร้า OTOP ของผู้บริโภคในจังหวัดอุดรธานี
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/2798
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านข้อมูลประชากรศาสตร์ที่มีผลต่อคุณค่าของตราสินค้าผลิตภัณฑ์ปลาร้า OTOP ของผู้บริโภคในจังหวัดอุดรธานี 2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อคุณค่าของตราสินค้าผลิตภัณฑ์ปลาร้า OTOP ของผู้บริโภคในจังหวัดอุดรธานี และ 3) เพื่อศึกษาตัวแปรพยากรณ์ที่มีผลต่อคุณค่าของตราสินค้าผลิตภัณฑ์ปลาร้า OTOP ของผู้บริโภคในจังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริโภคที่บริโภคปลาร้าในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี จำนวน 400 คนโดยใช้เทคนิควิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการเลือกตัวอย่างตามสะดวก Convenience Sampling เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis)</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 41 ปีขึ้นไป สถานภาพโสด และรายได้ต่อเดือนระหว่าง 20,000 บาทขึ้นไป ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้คุณค่าตราสินค้าผลิตภัณฑ์ปลาร้า OTOP ในจังหวัดอุดรธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านผลิตภัณฑ์ รองลงมาคือ ด้านกระบวนการ ด้านบุคคล ด้านลักษณะทางกายภาพ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการขาย ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยทั้ง 7 ด้าน ส่งผลต่อความรับรู้คุณค่าตราสินค้า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01</p>
พีรยา โกลัท
สืบชาติ อันทะไชย
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
30
44
-
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริการ คลินิกเสริมความงาม เดอะดีว่า
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/3400
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันในด้านประชากรศาสตร์ ด้านพฤติกรรมการตัดสินใจใช้บริการ และด้านระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนผสมทางการตลาด ของผู้มาใช้บริการคลินิกเสริมความงาม เดอะดีว่า 2) เพื่อเปรียบเทียบการตัดสินใจใช้บริการ จำแนกตามพฤติกรรมการใช้บริการ ของผู้ใช้บริการ คลินิกเสริมความงาม เดอะดีว่า 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการคลินิกเสริมความงาม เดอะดีว่า</p> <p>วิธีการดำเนินงานวิจัย ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง ผู้มาใช้บริการคลินิก จำนวน 400 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรโดยวิธีการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ผู้มาใช้บริการคลินิกเสริมความงาม เดอะดีว่า มักมารักษาปัญหาด้านผิวหน้า เรื่องฝ้า รอยดำ (ร้อยละ 38.5) ผิวหมองคล้ำ (ร้อยละ27.8 ) และรอยย่น (ร้อยละ 27.5) ตามลำดับ ผู้ใช้บริการมักมาใช้บริการในวันธรรมดา (ร้อยละ 70.8) โดยเพื่อนเป็นบุคคลที่มีผลต่อการตัดสินใจ ถึง ร้อยละ 66.5 ผู้มาใช้บริการให้ความสำคัญระดับมากที่สุด กับปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดด้านผลิตภัณท์ ด้านราคา ด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านกายภาพ การตัดสินใจใช้บริการคลินิกความงามเดอะดีว่า อยู่ในระดับ อาจจะใช้บริการ ผู้มีปัญหาด้านฝ้า รอยดำ มีค่าเฉลี่ยการตัดสินใจใช้บริการ มากกว่า ผู้มีปัญหาด้านผิวหมองคล้ำ และผู้ที่มีงบประมาณค่าใช้จ่าย 1,000-5,000 บาทต่อครั้ง มีค่าเฉลี่ยการตัดสินใจใช้บริการ มากกว่า ผู้มีงบประมาณค่าใช้จ่ายมากกว่า 10,000 บาทต่อครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจใช้บริการ โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณท์และการบริการ ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และปัจจัยด้านราคา ตามลำดับ ดังนั้นทางคลีนิก ควรให้ความสำคัญกับปัจจัยดังกล่าว</p>
ศิริน วิชัยเรืองธรรม
กิติกร วิชัยเรืองธรรม
บุษบาวรรณ มหารักขกะ
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
45
58
-
การส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุตำบลทุ่งนาเลา อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/3305
<p>ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสูงสุด ผลจากการวิจัยนี้นำไปใช้ประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงวัย และใช้ในการปรับปรุงยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุขององค์การบริหารส่วนตำบล การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยนำผลการวิจัยมาสรุปร่วมกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ ตำบลทุ่งนาเลา อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 286 คน โดยใช้วิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า โดยภาพรวมและรายด้านมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง เรียงลำดับ คือ ด้านสังคม ด้านจิตใจ ด้านเศรษฐกิจ และด้านร่างกาย และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุ กลุ่มเป้าหมายเป็นภาคีพัฒนา จำนวน 23 คน ใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา พบว่า (1) ด้านสังคม ควรจัดกิจกรรมบุญประเพณีฮีตสิบสองคองสิบสี่เชิงบูรณาการ ไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญตักบาตร สันทนาการ (2) ด้านจิตใจ ควรจัดอบรมเทคโนโลยีสารสนเทศ พัฒนาจิต ปรับปรุงที่พักอาศัย (3) ด้านเศรษฐกิจ ควรจัดตั้งกลุ่มอาชีพ อบรมตลาดออนไลน์ จัดถนนวัฒนธรรม แปรรูปพืชพื้นถิ่น เพิ่มเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ และ (4) ด้านร่างกาย ควรออกเยี่ยมครัวเรือนให้คำปรึกษา แจ้งข่าวสารออนไลน์ อบรมโภชนาการและอาหารพื้นถิ่น ออกกำลังกาย และจัดอบรมบุคลากรเฉพาะทาง</p>
กรรณวิษณ์ ช่วยอุปการ
ณภัทสุดา เปรมใจ
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
59
69
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือสำหรับประชาชนในจังหวัดอุดรธานี
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/3107
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการธนาคาร ผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) ของประชาชนในจังหวัดอุดรธานีและเปรียบเทียบ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือของประชาชนในจังหวัดอุดรธานี จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน กลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชน ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 435 คน ด้วยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูล ด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติการทดสอบที และสถิติการทดสอบเอฟ ในกรณีที่พบว่ามีความแตกต่างทดสอบรายคู่โดยวิธี LSD</p> <p>ผลจากการวิจัย ปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้งานธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือของประชาชน ในจังหวัดอุดรธานีทั้งในภาพรวมและรายด้านทั้ง 4 ด้าน คือ ในจังหวัดอุดรธานีโดยภาพรวม มีความสำคัญอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านช่องทางการบริการมีความสำคัญ อยู่ในระดับมาก ส่วนทางด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคาและ ด้านการส่งเสริมการตลาดมีความสำคัญ อยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับ นอกจากนี้ผู้ใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกัน ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มีความคิดเห็นต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้งานธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือแตกต่างกันทั้งในภาพรวมและรายด้าน</p>
กมลรัตน์ ป้อมสุวรรณ
ชลนที บูรรุ่งโรจน์
ศรินรัตน์ ศงสนันทน์
วิชุดา ธีระสาร
สมศักดิ์ กิจธนวัฒน์
เอกชัย จารุเนตรวิลาส
ชัยธัช กุประดิษฐ์
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
70
84
-
การพัฒนากลยุทธ์การตลาดเพื่อการเพิ่มโอกาสทางการตลาดผลิตภัณฑ์ชาดอกกาแฟ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/2860
<p>งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ชาดอกกาแฟของกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบ มีส่วนร่วมของชุมชน ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก การจัดเวทีประชาคมเพื่อระดมความคิด และการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่กาแฟ กลุ่มผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลที่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ยังขาดการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีลักษณะเฉพาะตัว ดังนั้น ทางกลุ่มจึงมีความต้องการที่จะพัฒนาตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ใหม่ รวมถึงมีความทันสมัยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดผู้บริโภค มีความเหมาะสม และเข้ากันได้ดีกับผลิตภัณฑ์ ผลจากการพัฒนาตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ใหม่ ทำให้ได้ตราสินค้าใหม่ คือ “แปลงใหญ่กาแฟน้ำหนาว” และได้บรรจุภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบขวดแก้วที่มีฝาปิดสนิท สะดวกต่อการใช้งานของผู้บริโภค และตรงตามความต้องการของกลุ่มตัวอย่าง ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับทางกลุ่มและชุมชน</p>
สุทธิสินี ถิระธรรมสรณ์
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
85
95
-
การปรับปรุงกระบวนการเพื่อลดความผิดพลาดการวางบิล ของให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ : กรณีศึกษา บริษัท ABC จำกัด
https://so08.tci-thaijo.org/index.php/MSJournal/article/view/3888
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาขั้นตอนการวางบิลของผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 2) ปรับปรุงขั้นตอนการวางบิลของผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และ 3. เพื่อเปรียบเทียบความผิดพลาดและระยะเวลาการรอคอยก่อนและหลัง การปรับปรุงระบบการวางบิล เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม โดยอาศัยวงจร PDCA มีกระบวนการวางแผน การปฏิบัติการตรวจสอบและการปรับปรุงการดำเนินการ โดยมีประชากรกลุ่มแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 5 คน คือ ผู้บริหารและพนักงานของ บริษัท ABC จำกัด เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ ด้วยการสัมภาษณ์กลุ่ม โดยวิธีสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ปัญหา โดยใช้แผนผังก้างปลา (Fish Bone Diagram) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการค้นหาสาเหตุ และผลกระทบที่เกิดขึ้น ช่วยให้ผู้วิจัยสามารถหาสาเหตุของข้อบกพร่องและความล้มเหลวในกระบวนการต่าง ๆ ได้ รวมถึงแนวทางการปรับปรุงขั้นตอนและกระบวนการทำงานด้วยระบบวงจรคุณภาพ คือทำการวางแผน นำแผนที่วางไว้มาปฏิบัติ ตรวจสอบผลลัพธ์ ที่ได้และถ้าผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่คาดหมายไว้และมีการทบทวนแผนการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง</p> <p>จากการศึกษาพบว่า มีปัญหาหลักอยู่ 4 ประการ ได้แก่ ความล่าช้าในการวางบิลและข้อมูลที่ ไม่ถูกต้องของผู้ให้บริการ ความขาดแคลนความรู้และประสบการณ์ของพนักงานในการตรวจสอบบิล ขั้นตอนการทำงานที่ขาดความละเอียดรอบคอบ และเครื่องมือที่ไม่เพียงพอ ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ยังไม่ดีพอของทั้งผู้ให้บริการ พนักงาน และระบบงาน จากการศึกษาปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการปรับปรุงขั้นตอนการวางบิลโดยให้ผู้ให้บริการสแกนบิลฉบับร่างส่งมาให้พนักงานโลจิสติกส์ตรวจสอบ เมื่อข้อมูลถูกต้องแล้ว จึงขอให้ส่งบิลจริงมาให้บริษัท และมีการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผลการปรับปรุง พบว่าสามารถลดความผิดพลาดในการวางบิล ลดลงจำนวน 49 ชุด คิดเป็นร้อยละ 92.45 และลดระยะเวลาในการชำระค่าบริการ ใช้ระยะเวลาในการรอ 3 วัน ระยะเวลาลดลง 11 วัน คิดเป็นร้อยละ 84.62 ส่งผลให้การจัดส่งบิลรวดเร็วขึ้น การปรับปรุงกระบวนการวางบิลครั้งนี้ไม่เพียงแต่ลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาในองค์กร</p>
ทิวากร แก้วกันหา
รดาศา เนตรแสงสี
ภัชธีญา บุญฤทธิ์
Copyright (c) 2025 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2024-04-28
2024-04-28
7 2
96
104