วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS <p>วารสารฯ ครอบคลุมสาขาวิชาที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดการโซ่อุปทานและกลยุทธ์ธุรกิจ ได้แก่ สาขาการตลาด การเงิน การบัญชี การจัดการธุรกิจ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ การจัดการโลจิสติกส์ การจัดการอุตสาหกรรม การจัดการการท่องเที่ยวและโรงแรม การโฆษณา การสื่อสารตรา การประชาสัมพันธ์ ธุรกิจดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ในเชิงการจัดการโซ่อุปทานและกลยุทธ์ธุรกิจ ตลอดจนงานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจชุมชนและฐานราก</p> สมาคมส่งเสริมการวิจัยทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์วิทยาลัยทองสุข และ โครงการบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต เพื่อความเป็นเลิศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง th-TH วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ หลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการฝึกอบรมการเจรจาต่อรองขั้นพื้นฐานเพื่อการจัดการความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพ https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS/article/view/3004 <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงหลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในการฝึกอบรมการเจรจาต่อรองขั้นพื้นฐานและวิธีการประยุกต์ใช้หลักการเหล่านี้เพื่อการจัดการความขัดแย้งภายในองค์กร ผ่านการทบทวนวรรณกรรมจากเอกสารและงานวิจัยในอดีต การฝึกอบรมการเจรจาต่อรองช่วยลดความขัดแย้งและส่งเสริมการทำงานเป็นทีม โดยมุ่งเน้นที่ผลประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร อีกทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะเฉพาะบุคคลในการเจรจาต่อรองนอกองค์กร เพื่อเพิ่มความสามารถในการบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควรเน้นที่การฝึกอบรมการเจรจาต่อรองอย่างเป็นระบบ โดยควรมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ฝึกอบรมอย่างละเอียด การพัฒนาเนื้อหาและกระบวนการฝึกอบรมควรสอดคล้องกับบริบทและความต้องการขององค์กร รวมถึงการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ การฝึกอบรมควรมุ่งเน้นที่การประยุกต์ใช้ทักษะการเจรจาต่อรองในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ฝึกอบรมสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวัน ดังนั้น องค์กรควรส่งเสริมการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาทักษะการเจรจาต่อรองและการจัดการความขัดแย้งให้กับบุคลากรในทุกระดับเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีความสามัคคีและมีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน</p> ปวริศ อนุสรณ์พานิช Copyright (c) 2024 วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 3 2 65 80 ธุรกิจพลิกอนาคต ค้นหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจในยุควิกฤตทรัพยากร https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS/article/view/3724 <p>จุดเด่นของหนังสือ คือ มีแนวคิดที่น่าสนใจรูปแบบการนำเสนอในแต่ละบทมีความชัดเจน สอดคล้องกัน มีการสรุปเรื่องและใช้แผนภาพ กราฟ ตารางข้อมูล ที่ช่วยทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ชัดเจน และส่วนท้ายของแต่ละบทมีการสรุปสาระสำคัญที่ได้ใจความชวนให้ติดตามอ่านและมองเห็นแนวทางที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจพัฒนาและคิดค้นมองหาโอกาสทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้าต่อไป</p> สมพร แทนสกุล Copyright (c) 2024 วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 3 2 81 84 THE IMPACT OF MARKETING MIX AND SERVICE QUALITY FACTORS ON CUSTOMER SATISFACTION OF KUAYING DIGITAL (BEIJING) TECHNOLOGY CO., LTD. https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS/article/view/2661 <p>The aim of this study was to investigate the marketing mix and service quality factors that influence customer satisfaction with Kuaying Digital (Beijing) Technology Co, Ltd. The research targeted customers who had previously used the company's services. The data collected from a sample of 300 respondents using questionnaires were analyzed based on frequency, percentage, mean and standard deviation. The hypotheses were tested using multiple regression analysis.</p> <p>The study revealed the following results: 1) The marketing mix factors, consisting of product, price, place and promotion, had a significant impact on customer satisfaction and showed statistical significance at the .05 level with a predictive power of 55.6%. And 2) The factors of service quality, including reliability, assurance, responsiveness, and empathy, had a significant influence on customer satisfaction at Kuaying Digital (Beijing) Technology Co., Ltd. and showed statistical significance at the .05 level with a predictive power of 66.1%.</p> Zicheng Zhang Phatthararuethai Kenikasahmanworakhun Copyright (c) 2024 วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-28 2024-06-28 3 2 1 15 EMPIRICAL ANALYSIS OF MOTIVATIONAL FACTORS FROM ERG THEORY ON EMPLOYEE EFFECTIVENESS AND RETENTION AT BEIJING JINWAN RUICHENG TECHNOLOGY CO., LTD. https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS/article/view/2662 <p>The research objectives are twofold: (1) to investigate the motivational factors that influence employee effectiveness at Beijing Jinwan Ruicheng Technology Co., Ltd. and (2) to investigate the motivational factors that influence employee retention at Beijing Jinwan Ruicheng Technology Co., Ltd. The study population includes the employees of Beijing Jinwan Ruicheng Technology Co. Ltd. and the data were collected through questionnaires from a sample of 200 respondents using the non-probability sampling method, specifically convenience sampling. The collected data was analyzed using statistical methods such as frequency, percentage, mean and standard deviation. In addition, the hypotheses were tested using the Partial Least Squares Structural Equation Model.</p> <p>It was found that the motivational factors of the aspect ‘Growth needs' have a direct and statistically significant impact on employee effectiveness, with a predictive power of 51.4%. In addition, motivational factors in the areas of ‘Existence needs', ‘Relatedness needs’ and ‘Growth needs’ have a direct impact on employee retention and show statistically significant effects at levels between .003 and .029. These factors contribute to a predictive power of 72.3%.</p> Jian He Phatthararuethai Kenikasahmanworakhun Copyright (c) 2024 วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-28 2024-06-28 3 2 16 37 ปัจจัยคุณภาพชีวิตที่ส่งผลต่อความผูกพันในองค์กรของพนักงานบริษัทกำจัดแมลงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS/article/view/1872 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความผูกพันในองค์กรจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานบริษัทกำจัดแมลงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และเพื่อศึกษาปัจจัยคุณภาพชีวิตที่ส่งผลต่อความผูกพันในองค์กรของพนักงานบริษัทกำจัดแมลงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้คือ พนักงานบริษัทกำจัดแมลงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 192 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วย การทดสอบแบบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีปัจจัยส่วนบุคคลในด้านระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันส่งผลต่อความผูกพันในองค์กรของพนักงานบริษัทกำจัดแมลงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในขณะที่คุณภาพชีวิตในด้านความภาคภูมิใจในองค์กร ด้านความก้าวหน้าและมั่นคงในงาน ด้านธรรมนูญในองค์กร และด้านค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเพียงพอส่งผลต่อความผูกพันในองค์กรของพนักงานบริษัทกำจัดแมลงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 67.8</p> ทศพร จันทร์เพ็ชรสี ทองฟู ศิริวงศ์ ลักษมี ทุ่งหว้า Copyright (c) 2024 วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-28 2024-06-28 3 2 38 51 คุณภาพชีวิตในการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร https://so08.tci-thaijo.org/index.php/VCMBS/article/view/1801 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความผูกพันต่อองกรณ์จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และเพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้คือ พนักงานในบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 145 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วย การทดสอบแบบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ สถานภาพ การศึกษาและอายุการทำงานที่แตกต่างกัน มีความผูกพันต่อองค์กรไม่แตกต่างกัน ยกเว้น พนักงานที่มีปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุและรายได้ที่แตกต่างกันมีความผูกพันต่อองค์กรแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในส่วนของคุณภาพชีวิตในการทำงาน ได้แก่ ด้านธรรมนูญในองค์กร ด้านลักษณะงานที่มีส่วนรวมทางสังคม และด้านการบูรณาการทางสังคมในองค์กรส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 74.8</p> ปรีญารัตน์ สายไฮคำ สมพล ทุ่งหว้า Copyright (c) 2024 วารสารการจัดการโซ่คุณค่าและกลยุทธ์ธุรกิจ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-06-29 2024-06-29 3 2 52 64