ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของเจ้าหน้าที่สรรพากร พื้นที่สาขา ในสังกัดสำนักงานสรรพากรภาค 9

Main Article Content

สิริวันทน์ มาพะเนาว์
ดร.ปิยะมาศ สุรภพพิศิษฐ์

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สาขา ในสังกัดสำนักงานสรรพากรภาค 9 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการทำงาน 2) เพื่อศึกษาระดับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการทำงานที่ส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิต
และการทำงาน เก็บรวบรวมข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สรรพากรในสังกัดสำนักงานสรรพากรภาค 9 จำนวน 300 คน
โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise multiple regression analysis) ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุระหว่าง 31-40 ปี สถานภาพโสด
เป็นข้าราชการที่มีอายุการปฏิบัติงาน 1-10 ปี การศึกษาปัจจัยด้านการทำงาน พบว่า ด้านรายได้ต่อเดือน
ด้านความมั่นคงในการทำงานและด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานมากที่สุด คือความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ส่วนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการทำงาน ด้านครอบครัว ด้านเวลาชีวิต ด้านการเงิน และด้านการพัฒนาความรู้ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
โดยด้านการทำงาน มีความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานมากที่สุด และพบว่าปัจจัยด้านการทำงานทั้ง 3 ด้านส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Article Details

How to Cite
มาพะเนาว์ ส., & สุรภพพิศิษฐ์ ป. (2023). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของเจ้าหน้าที่สรรพากร พื้นที่สาขา ในสังกัดสำนักงานสรรพากรภาค 9. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 2(2), 16–29. สืบค้น จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/jmsnrru/article/view/1903
บท
บทความวิจัย

References

กรมสรรพากร. (2564). “RD SMART TEAM Citizen-Centric Prestigious Awards Sustainable Nation” รายงานประจำปี 2564. [ออนไลน์]. หน้า 7-26. แหล่งที่มา: https://www.rd.go.th/fileadmin/

download/annual_report/annual_report64. Pdf. [20 พฤษภาคม 2565].

กรมสรรพากร. (2565). กองบริหารทรัพยากรบุคคล. กรุงเทพฯ : กองบริหารทรัพยากรบุคคล กรมสรรพากร.

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2561). การวิเคราะห์สถิติขั้นสูงด้วย SPSS for windows. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ณรงค์ โพธิ์พฤกษานันท์. (2556). ระเบียบวิธีวิจัย Research Methodology. กรุงเทพฯ : เอ็กซเปอร์เน็ท.

นรินทร์ทิพย์ ประศรีรเตสัง และดุษฎี อายุวัฒน์. (2564). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อสมดุลชีวิตกับงานของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริการ: กรณีงานและชีวิตส่วนตัวส่งเสริมซึ่งกันและกัน.

วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ปัทมาวรรณ จินดารักษ์ และ สายสุนีย์ เกษม (มกราคม-มิถุนายน 2562). “สมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานกับความหลากหลายของกลุ่มวัย Work-Life Balance and Generations Diversity.” วารสารนักบริหาร 39(1) : 3-11.

เรียม นมรักษ์. (กันยายน-ธันวาคม 2564). “สมดุลชีวิตและการทำงานในพยาบาลวิชาชีพ.” วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 11(3) : 176-186.

สิริลักษณ์ มงคล. เจ้าพนักงานสรรพากรชำนาญงาน. สัมภาษณ์. 28 พฤษภาคม 2565.

สุภา เข็มแข็งปรีชานนท์, ระวี สัจจโสภณ และศุภรักษ์ อธิคมสุวรรณ. (มกราคม-มิถุนายน 2563). “ปัจจัยที่มีผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน ของบุคลากรสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย.” วารสารสังคมศาสตร์วิจัย. 11(1) : 169-190.

Herzberg, F. (1959). The Motivation to Work. 2nd ed. New York : John Wiley.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). “Determining sample size for research activities.” Educational and Psychological Measurement. 30(3) : 607-610.

Merrill, A. R. & Merrill, R. R. (1961). Life matter: Crating a dynamic balance of work, family, time and money. New York : McGraw-Hill.

Mondy, R. W. (1996). Human Resource Management. 6th ed. New Jersey : Prentice-Hall.

Steers, R. M. & Porter, L. W. (1991). Motivation and work behavior. 5th ed. New York : McGraw-Hill.

Subramaniam, A. G., Overton, B. J. & Maniam, C. B. (January 2015). “Flexible working arrangements, work life balance and women in Malaysia.” International Journal of Social Science and Humanity. 5(1) : 34-38.