การพัฒนาชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อส่งเสริมการเข้าใจตนเอง และการเลือกอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Main Article Content

ชนนิกานต์ ปักคะมา
วิกานดา ชัยรัตน์

บทคัดย่อ

 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบระดับการเข้าใจตนเอง และการเลือกอาชีพของนักเรียนก่อนและหลังเข้าร่วมชุดกิจกรรมแนะแนว 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อส่งเสริมการเข้าใจตนเอง และการเลือกอาชีพ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 35 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้คือ ชุดกิจกรรมแนะแนว 6 กิจกรรม แบบวัดการเข้าใจตนเองและการเลือกอาชีพ และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Paired-Sample t-test ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนหลังเข้าร่วมกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยการเข้าใจตนเองและการเลือกอาชีพสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมในระดับมาก

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ปักคะมา ช. . ., & ชัยรัตน์ ว. (2025). การพัฒนาชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อส่งเสริมการเข้าใจตนเอง และการเลือกอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสารครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 9(18), 108–119. สืบค้น จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/EJFE/article/view/5580
ประเภทบทความ
Research article

เอกสารอ้างอิง

กฤตวรรณ คำสม. (2557). การแนะแนวเบื้องต้น. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.

จตุรพร ลิ้มมั่นจริง. (2554). วิธีการสอนวิชาการแนะแนว. (พิมพ์ครั้งที่ 1) กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

จุฑามณี มะลิหวล และวิกานดา ชัยรัตน์. (2568). ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวเพื่อเพิ่มความสนใจ ทางด้านการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์. วารสารชัยพฤกษ์ภิรมย์. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 7 (1),17-28.

ชนนิกานต์ ปักคะมา และวิกานดา ชัยรัตน์. (2568). ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้แนวคิดการ เรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร(วคคส.),9 (17), 1-11.

ชุติมา ทองมีขวัญ และ คณะ. (2565). การเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของตนเองในการตัดสินใจ เลือกอาชีพของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนว. วารสารวิจัยธรรมศึกษา, 5(2), 127-139.

พิมพ์พลอย ปานเพชร และวรางคณา โสมวรรณ. (2566). ผลของกิจกรรมแนะแนวต่อการเสริมสร้าง การรับรู้ความสามารถของตนในการเลือกอาชีพสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 8(2), 891-902.

มนตรี หลินภู. (2568). จิตวิทยาเพื่อการเรียนรู้สำหรับครู. (พิมพ์ครั้งที่ 1). ลำปาง : กิจเสรีการพิมพ์.

มณีรัตน์ แก้วการไร่ และปวีณา อ่อนใจเอื้อ. (2564). ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามแนวคิดการรับรู้ความสามารถของตนเอง ด้านอาชีพเพื่อพัฒนาการตัดสินใจเลือกอาชีพของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนราชดำริ. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์),15(3), 25-37.

สรรเสริญ หุ่นแสน. (2564). การแนะแนวในสถานศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : เลย์ปริ๊นส์.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). การจัดบริการแนะแนวในสถานศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). การออกแบบกิจกรรมแนะแนวที่เน้นการพัฒนา ทักษะสำหรับผู้เรียน. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่ง ประเทศไทย.

Bandura, A. (1977). Social Cognitive Theory. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall.

Bandura, A. (1997). “Self-efficacy: The exercise of control.” New York: Freeman, 22(1), 63-81.

Holland, J L. (1997). Making vocational choices : A theory of Vocational personalities and work environment. Odessa, FL : Psychological Assessment Resources.

Lent, R. W., Brown, S. D., & Hackett, G. (1994). Toward a unifying social cognitive theory of career and academic interest, choice, and performance. Journal of vocational behavior, 45 (1), 79-122.

Noe, R. A., Hollenbeck, J. R., Gerhart, B., & Wright, P. M. (2003). Human resource management: Gaining a competitive advantage (4th ed.). New York, NY: McGraw-Hill/Irwin

Tyler, K. M., & Betz, N. E. (1983). Applications of self-efficacy theory to the understanding and treatment of career indecision. Journal of Vocational Behavior, 22(2), 63–81.