การดัดแปลงรถจักรยานยนต์เพื่อใช้พลังงานสองระบบ

บทคัดย่อ

รถจักรยานยนต์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ ที่อาจเจอสภาพการการจราจรติดขัด อย่างไรก็ตาม รถจักรยานยนต์ยังคงต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงน้ำมันในการขับเคลื่อน ซึ่งในสภาพการจราจรหนาแน่น รถจักรยานยนต์มักเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ โดยใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น จากปัญหาพลังงานเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานยานพาหนะ ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะดัดแปลงรถจักรยานยนต์ให้สามารถใช้พลังงานได้สองระบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ดัดแปลงรถจักรยานยนต์เพื่อใช้พลังงานสองระบบ และ 2) เพื่อเปรียบเทียบอัตราการสิ้นเปลืองพลังงงานของรถจักรยานยนต์ระบบมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ ผลการวิจัยพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นระบบสองพลังงาน ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เชื้อเพลิง สามารถใช้งานได้จริง โดยจากการทดสอบระบบมอเตอร์ไฟฟ้าพบว่า รถสามารถวิ่งได้ระยะทาง 50 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มร้อยละ 100 คิดเป็นค่าใช้จ่าย 10.108 บาท เมื่อใช้ระบบเครื่องยนต์ที่ความเร็วและระยะทางเท่ากัน คือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทาง 50 กิโลเมตร รถใช้น้ำมัน 1.9 ลิตร คิดเป็นค่าใช้จ่าย 69.12 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขับขี่ ด้วยระบบไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าระบบเครื่องยนต์ถึง 59.012 บาท งานวิจัยนี้จึงยืนยันอย่างชัดเจนว่าการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิง