กลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง สู่องค์กรสรรถนะสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
คำสำคัญ:
กลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง, องค์กรสมรรถนะสูงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. วิเคราะห์ปัจจัยเชิงกลยุทธ์การบริหาร 2. เพื่อสร้างกลยุทธ์การบริหาร และ 3. ประเมินกลยุทธ์การบริหาร วิธีวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ปัจจัยเชิงกลยุทธ์การบริหาร วิทยาลัยสารพัดช่างสู่องค์กรสมรรถนะสูง กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 15 คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบและแนวทางการบริหารวิทยาลัยสารพัดช่างสู่องค์กรสมรรถนะสูง ซึ่งมีค่าความเที่ยงของการสัมภาษณ์ เท่ากับ 1.00 และการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และวิเคราะห์องค์ประกอบการบริหาร ขั้นตอนที่ 2 การสร้างกลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง สู่องค์กรสรรถนะสูง โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 11 คน และขั้นตอนที่ 3 การประเมินกลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง สู่องค์กรสรรถนะสูง เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 9 คน ได้มาจากการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของกลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่างสู่องค์กรสมรรถนะสูง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัยเชิงกลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง สู่องค์กรสมรรถนะสูง ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ด้านบุคลากรมีคุณภาพ 2) ด้านมีเครือข่ายความร่วมมือ 3) ด้านความเป็นเลิศคุณภาพของงาน 4) ด้านทีมงานมีประสิทธิภาพ 5) ด้านเทคโนโลยีในการบริหารจัดการ และ 6) ด้านโครงสร้างองค์กร ที่มีความยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 2. ผลการสร้างกลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง สู่องค์กรสมรรถนะสูง ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ 12 กลยุทธ์ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สู่ความเป็นเลิศ ได้แก่ 1) ยกระดับสมรรถนะบุคลากรสู่มาตรฐานสากล 2) เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งคุณธรรมและจิตสาธารณะ องค์ประกอบที่ 2 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ 1) ขยายพันธมิตรทางการศึกษาและอุตสาหกรรมในระดับนานาชาติ 2) ยกระดับความร่วมมือกับสถานประกอบการสู่การสร้างสมรรถนะนักศึกษา องค์ประกอบที่ 3 การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสู่ความเป็นเลิศ ได้แก่ 1) พัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล 2) ยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนสู่ความเป็นเลิศ องค์ประกอบที่ 4 การเสริมสร้างวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมแบบมืออาชีพ ได้แก่ 1) พัฒนาทีมงานสมรรถนะสูงเพื่อขับเคลื่อนองค์กร 2) สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบที่ 5 การขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ 1) ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการสมัยใหม่ 2) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และองค์ประกอบที่ 6 ด้านโครงสร้างองค์กร ที่มีความยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ 1) ส่งเสริมด้านการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของบุคลากร 2) มุ่งเน้นการประเมินและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง 3. ผลการประเมินกลยุทธ์การบริหารวิทยาลัยสารพัดช่าง สู่องค์กรสมรรถนะสูง มีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.86, S.D. = 0.28)
เอกสารอ้างอิง
World Economic Forum. (2023). Future of jobs report 2023. https://www.weforum.org/publications/the-future-of-jobs-report-2023/
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2566). แผนปฏิบัติราชการประจำปี พ.ศ. 2566. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.
ฉัตรชัย นาถ้ำพลอย. (2563). การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ NEW PUBLIC SECTOR MANAGEMENT. วารสารศิลปศาสตร์ราชมงคลสุวรรณภูมิ, 2(2), 461-470.
อรรถพล สังขวาสี, พา อักษรเสือ และชัยยุทธ ศิริสุทธิ์. (2564). อนาคตภาพการอาชีวศึกษาไทยในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2565-2574).วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 21(4), 221-233.
Baldrige, M. (2013). Baldrige excellence framework: Proven leadership and management practices for high performance. Gaithersburg, MD: Baldrige Performance Excellence Program
Bryson, J. M. (2018). Strategic planning for public and nonprofit organizations: A guide to strengthening and sustaining organizational achievement (5th ed.). Hoboken, NJ: John Wiley & Sons.
นิรุตต์ บุตรแสนดี (2022). การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา: การผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงแห่งศตวรรษ ที่ 21. วารสารวิจัยและนวัตกรรมสถาบันการอาชีวศึกษา กรุงเทพมหานคร, 5(1). B-L.
Kaplan, R. S., & Norton, D. P. (1996). The balanced scorecard: Translating strategy into action. Boston, MA: Harvard Business School Press.
Mintzberg, H. (1994). The rise and fall of strategic planning. Free Press.
Hitt, M. A., Ireland, R. D., & Hoskisson, R. E. (2001). Strategic management: Competitiveness and globalization (4th ed.). Cincinnati, OH: South-Western College Publishing.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 3 (KRIS Journal)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.