องค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลักของผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาในจังหวัดปัตตานี

ผู้แต่ง

  • วีระพงษ์ บรรจุสุวรรณ์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศษสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
  • ฟาริด อับดุลลอฮ์หะซัน สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศษสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
  • ณัฐชนน น้านิรัติศัย สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศษสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี

คำสำคัญ:

องค์กรแห่งการเรียนรู้, สมรรถนะหลัก, ผู้บริหารสถานศึกษา

บทคัดย่อ

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับองค์กรแห่งการเรียนรู้ และสมรรถนะหลักของผู้อำนวยการสถานศึกษา 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรแห่งการเรียนรู้กับสมรรถนะหลักของผู้อำนวยการสถานศึกษา 3) ศึกษาองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะของผู้อำนวยการสถานศึกษา 4) ศึกษาแนวทางการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลักของผู้อำนวยการสถานศึกษา มีวิธีการดำเนินวิจัย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยประกอบด้วย ผู้บริหารและครู จากสถานศึกษาอาชีวศึกษาในจังหวัดปัตตานี จำนวน 256 คน จากทั้งหมด 9 แห่ง เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างที่ใช้สัมภาษณ์ผู้บริหาร ผลการศึกษาพบว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการสร้างและสานวิสัยทัศน์ สมรรถนะหลักอยู่ในระดับสูงสุดในทุกด้าน ได้แก่ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ การบริการที่ดี การพัฒนาตนเอง และการทำงานเป็นทีม พบความสัมพันธ์เชิงบวกและมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาตนเองและการทำงานเป็นทีมที่มีความสัมพันธ์สูงสุด การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนชี้ให้เห็นว่า ด้านการสร้างและสานวิสัยทัศน์ และด้านการคิดและการเข้าใจเชิงระบบ เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อสมรรถนะหลักของผู้อำนวยการสถานศึกษา แนวทางการพัฒนา ได้แก่ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การบริการที่มีคุณภาพ การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการทำงานเป็นทีมที่เปิดกว้าง งานวิจัยชี้ว่า การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้คือกลไกสำคัญในการเสริมสมรรถนะผู้อำนวยการเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

Senge, P. M. (1990). The fifth discipline: The art and practice of the learning organization. Doubleday.

เอกรินทร์ เขียวใส, โสภนา สุดสมบูรณ์ และสุทธิพงศ์ ตันตริจจนาวงศ์. (2565). สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2. วารสารสถาบันวิจัยพิมลธรรม, 9(3), 136–145.

ชัชชนม์ พลลาภ และอำนวย มีราคา. (2568). สมรรถนะผู้บริหารที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาหนองคาย. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (JAPDEAT), 7(1), 50–63.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.

Locke, E. A., & Latham, G. P. (2002). Building a practically useful theory of goal setting and task motivation: A 35-year odyssey. American Psychologist, 57(9), 705-717. https://doi.org/10.1037/0003-066X.57.9.705

Parasuraman, A., Zeithaml, V. A., & Berry, L. L. (1988). SERVQUAL: A multiple-item scale for measuring consumer perceptions of service quality. Journal of Retailing, 64(1), 12-40.

Candy, P. C. (2002). Information literacy and lifelong learning [White paper]. Prepared for UNESCO, the U.S. National Commission on Libraries and Information Science, and the National Forum on Information Literacy, for use at the Information Literacy Meeting of Experts, Prague, Czech Republic.

Tuckman, B. W. (1965). Developmental sequence in small groups. Psychological Bulletin, 63(6), 384–399. https://doi.org/10.1037/h0022100

McClelland, D. C. (1973). Testing for competence rather than for “intelligence.”. American Psychologist, 28(1), 1–14. https://doi.org/10.1037/h0034092

Spencer, L. M., Jr., & Spencer, S. M. (1993). Competence at work: Models for superior performance. John Wiley & Sons.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

20-12-2025

รูปแบบการอ้างอิง

1.
บรรจุสุวรรณ์ ว, อับดุลลอฮ์หะซัน ฟ, น้านิรัติศัย ณ. องค์กรแห่งการเรียนรู้ที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลักของผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาในจังหวัดปัตตานี. KRIS Journal [อินเทอร์เน็ต]. 20 ธันวาคม 2025 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];5(2):41-50. available at: https://so08.tci-thaijo.org/index.php/KRIS/article/view/5549

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย