พุทธวิธีสื่อสารเพื่อสร้างความนิยมทางการเมืองให้แก่ประชาชนของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1.ศึกษาความนิยมทางการเมืองของประชาชนต่อนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง 2. ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความนิยมทางการเมืองของประชาชนต่อนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง และ 3. ศึกษาพุทธวิธีสื่อสารเพื่อสร้างความนิยมทางการเมืองแก่ประชาชนของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง โดยการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการตีความสร้างข้อสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 18 รูปหรือคน และการสนทนากลุ่มเฉพาะ รูปหรือคน และการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 398 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ

ผลการวิจัยพบว่า 1. ความนิยมทางการเมืองของประชาชนต่อนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง ประกอบด้วย ภาพลักษณ์พรรคการเมือง ภาพลักษณ์ผู้นํา และการนําเสนอประเด็นที่เป็นแนวทางหลักของพรรคการเมือง 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความนิยมทางการเมืองของประชาชนต่อนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง พบว่า การสื่อสาร และหลักวจีสุจริต ส่งผลต่อความนิยมทางการเมืองของประชาชนต่อนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.01 และ 3. พุทธวิธีสื่อสารเพื่อสร้างความนิยมทางการเมืองแก่ประชาชนของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง ด้วยหลักวจีสุจริต คือ 1. มุสาวาท การงดเว้นจากการพูดเท็จและบิดเบือน ส่งสารที่เป็นข้อเท็จจริง ข้อมูลที่ถูกต้อง ตรวจสอบสารได้ ยึดถือในหลักศีลธรรม ศีล 5 ในข้อ 4 มุสาวาท 2. ปิสุณวาจา การงดเว้นจากการพูดจาเหน็บแนมและส่อเสียดบุคคลอื่น การงดเว้นการพูดให้ผู้อื่นเสียหาย ยอมรับฟัง สนับสนุนแนวคิดและนโยบายที่มีประโยชน์แก่สังคม 3. ผรุสวาจา การงดเว้นจากการพูดคำหยาบคายให้คนอื่นเจ็บใจ ใช้คำที่สุภาพ อ่อนโยน มีสัมมาคารวะ และ 4. สัมผัปปลาปะ การงดเว้นจากการพูดจาเพ้อเจ้อ สื่อสารชัดเจนมีสาระ มีความน่าเชื่อถือ มีหลักฐานผ่านการตรวจสอบ