พุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำทางการเมืองของนักการเมืองท้องถิ่นในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.ศึกษาการสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง 2.ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง 3.นำเสนอพุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำทางการเมืองของนักการเมืองท้องถิ่นในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง ผู้วิจัยได้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 18 รูป คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะ จำนวน 8 รูป คนและการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร และเทศบาลตำบลเกาะคา จำนวน 399 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ

ผลการวิจัยพบว่า 1. การสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง พบว่า 1. มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน 2. มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง 3. มีองค์ความรู้และความสามารถในการแสวงหาความรู้ 4. มีการเรียนรู้จากการทำกิจกรรมร่วมกัน 5. มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยงข่ายความร่วมมือ 6. มีระบบการจัดการที่ดีมีประสิทธิภาพ และ 7. มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะในฐานะของพลเมือง 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง ผลการศึกษาพบว่า ภาวะผู้นำทางการเมือง และหลักปาปณิกธรรม ส่งผลต่อความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.01 3. พุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำทางการเมืองของนักการเมืองท้องถิ่นในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคประชาสังคมในจังหวัดลำปาง พบว่า ด้านจักขุมา ผู้นำจะต้องรู้จักมองการณ์ไกลควรมีวิสัยทัศน์ชัดเจน รู้จักเชื่อมโยงโดยการฟังเสียงความคิดและความต้องการของประชาชน ด้านวิธูโร ผู้นำต้องสามารถจัดการธุระได้อย่างมีความเชี่ยวชาญมีประสิทธิภาพ และด้านนิสสยสัมปันโน ผู้นำต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี