การออกแบบสร้างและหาประสิทธิภาพเครื่องกลั่นรีไซเคิลน้ำยา F11 สำหรับเครื่องปรับอากาศ
คำสำคัญ:
น้ำยา F11, เครื่องกลั่นรีไซเคิล, เครื่องปรับอากาศบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ออกแบบและสร้างเครื่องกลั่นรีไซเคิลน้ำยา F11 2) ทดสอบ และหาประสิทธิภาพของเครื่องกลั่นรีไซเคิลน้ำยา F11 3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้ที่มีต่อเครื่องกลั่น รีไซเคิลน้ำยา F11 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทดลอง คือ ช่างซ่อมในสถานประกอบการด้านการซ่อมเครื่องปรับอากาศ ในสำนักงานและเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา จำนวน 20 คน โดยวิธีการเลือก แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบบันทึกการทดลอง แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) เครื่องกลั่นรีไซเคิลน้ำยา F11 ที่ออกแบบและสร้างขึ้นสามารถรีไซเคิลน้ำยา F11 ด้วยวิธีการควบแน่น มีระบบควบคุมการทำงานของเครื่อง 2 ระบบ คือ ระบบทำด้วยมือ (Manual) และระบบอัตโนมัติ โดยทั้งระบบรีไซเคิลน้ำยา F11 และระบบการควบแน่นอยู่ภายในเครื่องเดียวกัน 2) ประสิทธิภาพ เครื่องกลั่นรีไซเคิลน้ำยา F11 สำหรับเครื่องปรับอากาศ ด้านโครงสร้าง ได้แก่ ระบบปั๊มดูดน้ำยา F11 ระบบ หม้อต้มน้ำร้อน ระบบการทำความเย็นและระบบการควบแน่น ทำงานอยู่ในสภาวะปกติ คิดเป็นร้อยละ 100 ด้าน การกลั่นรีไซเคิล ปริมาณน้ำยา F11 ที่ใส่ในหม้อต้ม 6,000 ml. น้ำยา F11 ที่ได้รับจากการรีไซเคิล 4,190 ml. คิดเป็นร้อยละ 70 และเกิดความสูญเสีย 1,800 ml. คิดเป็นร้อยละ 30 และความพึงพอใจต่อเครื่องกลั่นรีไซเคิลน้ำยา F11 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
References
ธรรมฤทธิ์ วนิชเรืองชัย. (2554). การสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกอบรมอาชีพช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ รถยนต์. วารสารพัฒนาเทคนิคศึกษา, 23(78), 83.
อดุลย์ จรรยาเลิศอดุลย์, มงคล ปุษยตานนท์ และสมภพ สนองราษ. (2558). เครื่องรีไซเคิลทินเนอร์ใช้แล้ว การประชุมวิชาการระดับชาติ มอบ.วิจัย ครั้งที่ 10. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
ขวัญชัย เสวีนันท์. (2562). เครื่องหลอมรีไซเคิลโฟมอีพีเอส (EPS). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
อำนาจ อิ่มสุข และคณะ. (2552). เครื่องรีไซเคิลน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว. ปราจีนบุรี : วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 3 (KRIS Journal)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.