แบบฝึกทักษะ: การยืนยันคุณค่าใหม่ในยุคการศึกษาไทยเปลี่ยนผ่าน
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในยุคดิจิทัล บทความนี้ยืนยันคุณค่าของแบบฝึกทักษะ ซึ่งมักถูกมองว่าล้าสมัยและถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงแบบฝึกหัดทั่วไปที่ขาดคุณค่าทางวิชาการ เพื่อแก้ไขความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเหล่านี้ ผู้เขียนจึงได้ศึกษาเอกสารวิชาการและสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงสำรวจงานวิจัยในไทย (พ.ศ. 2564-2568) ผลการวิเคราะห์พบความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน 5 ประการ ได้แก่ ความสับสนทางศัพท์บัญญัติ การมองว่าขาดคุณค่าทางวิชาการ การจำกัดบทบาทเพียงพัฒนาความจำ การเชื่อว่าไม่กระตุ้นแรงจูงใจ และการยึดติดรูปแบบตายตัว อย่างไรก็ตาม แบบฝึกทักษะสามารถบูรณาการทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมสมัยเพื่อส่งเสริมการคิดขั้นสูง และมีโครงสร้าง 3 ส่วน คือ ส่วนต้น ส่วนกลาง และส่วนท้าย รวมทั้งสามารถประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มแรงจูงใจ การศึกษาสรุปว่าแบบฝึกทักษะยังคงเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมและเข้าถึงได้จริงในระบบการศึกษาไทย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารครุศาสตร์เล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยนครพนม และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
เจษฎา บุญมาโฮม และกษมา เชื้อเพชร. (2566). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญจากนิทานพื้นบ้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ. วารสารปราชญ์ประชาคม, 1(2), 1–14.
เจษฎา บุญมาโฮม และปราณี สีนาค. (2566). ผลของโปรแกรมฝึกอบรมตามแนวคิดการเรียนรู้แบบกระตือรือร้นร่วมกับการโค้ชที่มีต่อความรู้และความสามารถในการสร้างแบบฝึกทักษะของนักศึกษาครู. วารสารการบริหารจัดการและ
นวัตกรรมท้องถิ่น, 5(8), 1079–1092.
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2561). 80 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (พิมพ์ครั้งที่ 8). พี บาลานซ์ดีไซด์.
บริบูรณ์ ชอบทำดี. (2559). การพัฒนาสื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
ศันสนีย์ สังสรรค์อนันต์ และชลาภรณ์ สุวรรณสัมฤทธิ์. (2562). หน่วยที่ 7 สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการศึกษา (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2, พิมพ์ครั้งที่ 5). ใน เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
อาภรณ์ ชุนดี. (2562). สื่อประดิษฐ์ยังมีความจำเป็นหรือไม่ในยุคดิจิทัล. วารสารการจัดการศึกษาปฐมวัย, 1(1), 63–76.
สุคนธ์ สินธพานนท์. (2561). นวัตกรรมการเรียนการสอนของครูยุคใหม่เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. เทคนิคพริ้นติ้ง.
สุรางค์ โค้วตระกูล. (2565). จิตวิทยาการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 14). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Anderson, J. R. (2015). Cognitive psychology and its implications (8th ed.). Worth Publishers.
Ericsson, K. A. (2016). Expertise and deliberate practice: An update on the latest developments. Current Directions in Psychological Science, 25(6), 392–398.
Karpicke, J. D., & Roediger, H. L. (2008). The critical importance of retrieval for learning. Science, 319(5865), 966–968. https://doi.org/10.1126/science.1152408
Kwaar, Y., Soumokil, A., & Sialana, F. (2022). The use of exercise methods in improving student learning outcomes in the material of living and practicing religious teachings at SMAN 9 Ambon.
International Journal of Religion, Education and Law, 1(1), 1–8.
Lim, C. S., Tang, K. N., & Kor, L. K. (2012). Drill and practice in learning (and beyond). In N. M. Seel (Ed.), Encyclopedia of the sciences of learning (pp. 1074–1077). Springer. https://doi.org/10.1007/978-1-4419-1428-6_706
Mayer, R. E. (2020). Multimedia learning (3rd ed.). Cambridge University Press.
Merrill, M. D. (2002). First principles of instruction. Educational Technology Research and Development, 50(3), 43–59.
Ormrod, J. E. (2020). Human learning (8th ed.). Pearson.
Schunk, D. H. (2020). Learning theories: An educational perspective (8th ed.). Pearson.
Willingham, D. T. (2009). Why don’t students like school? Jossey-Bass.