การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยโดยใช้กิจกรรม ค่ายรักษ์ภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมตอนต้นโรงเรียนสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ และโรงเรียนนาดีวิทยา จังหวัดสุรินทร์

ผู้แต่ง

  • วิภาวัณย์ สาระทรัพย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • สิริลักษณ์ บุ้งทอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • ศุภชัย ภักดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • จันจิรา เซี่ยงฉิน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • อธิพร ประเทืองเศรษฐ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • นิตยา เรืองสุวรรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • ศิรประภา สันตะวงศ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

คำสำคัญ:

กิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทย, ทักษะการอ่าน, ทักษะเขียนภาษาไทย

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้นำเสนอการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมตอนต้น โรงเรียนสตึก จังหวัดบุรีรัมย์และโรงเรียนนาดีวิทยาจังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทยก่อนเรียนและหลังการใช้กิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทยและเพื่อประเมินความพึงพอใจของการจัดกิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทย กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 169 คน และนักเรียนโรงเรียนนาดีวิทยา จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 275 คน โดยเป็นนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย และแบบประเมินวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยวิธีการทางสถิติ t-test Dependent และการประเมินความพึงพอใจของการจัดกิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทย
โดยวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนโรงเรียนสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ มีผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยและหลังการใช้กิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดค่ายรักษ์ภาษาไทยอยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?\bar{x} = 4.72) 2. นักเรียนโรงเรียนนาดีวิทยา จังหวัดสุรินทร์ มีผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยและหลังการใช้กิจกรรมค่ายรักษ์ภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดค่ายรักษ์ภาษาไทยอยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?\bar{x}  = 4.51)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

จิตาพัชญ์ ไชยสิทธิ์. (2558). Active Learning: การจัดการเรียนการสอนแบบเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติ. คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.

ดารุนนีย์ สวัสดิโชตติ์, ศิริรัตน์ อินทรเกษม และพะยอม สิทธุศิริ. (2557). ผลการบูรณาการบริการวิชาการกับการจัดการเรียนการสอนต่อผลสัมฤทธิ์ความรู้และความพึงพอใจของนักศึกษาหลักสูตร. คณะพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม

ทิศนา แขนมณี. (2543). 14 วิธีการสอนสำหรับครูมืออาชีพ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พนมพร เผ่าเจริญ. (2541). การสอนที่เน้นการเรียนแบบร่วมมือ : การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้. คุรุสภา.

ฟารีดา กิตติวิโรจน์, นูรอ ยาเซ็ง, เดชดนัย จุ้ยชุม, กามีลียา หะยีหะซา และสุไลมาน สมาแฮ. (2560). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ในการบริหารวิชาการค่ายภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถม ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส”. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 4(1), 38-39.

มานพ ศรีเทียม, ศุภรดา สุขประเสริฐ และอมรา ศรีแก้ว. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยใช้กิจกรรมค่ายวิชาการของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา โรงเรียนบ้านชัยภูมิ จังหวัดกำแพงเพชร. วารสารครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 5(10), 42-43.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2539). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-06-28

รูปแบบการอ้างอิง

สาระทรัพย์ ว. ., บุ้งทอง ส. ., ภักดี ศ., เซี่ยงฉิน จ., ประเทืองเศรษฐ์ อ., เรืองสุวรรณ น. ., & สันตะวงศ์ ศ. . (2024). การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยโดยใช้กิจกรรม ค่ายรักษ์ภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมตอนต้นโรงเรียนสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ และโรงเรียนนาดีวิทยา จังหวัดสุรินทร์. วารสารวิชาการมนุษย์และสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 8(1), 52–70. สืบค้น จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/jhuso/article/view/2565