กลวิธีการแปลชื่อซีรีส์เกาหลีแนวซากึก (เชิงประวัติศาสตร์) จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย

ผู้แต่ง

  • ยุวเรศ เลาหพรรค คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • แสงเดือน กาศลังกา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • ชาญศักดิ์ เสียงเย็น คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • สมหมาย รอดแป้น คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

คำสำคัญ:

กลวิธีการแปล, ชื่อซีรีส์เกาหลี, ซากึก, ซีรีส์เชิงประวัติศาสตร์

บทคัดย่อ

การแปลชื่อซีรีส์เกาหลีแนวซากึก (เชิงประวัติศาสตร์) มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเนื้อหาและความหมายของซีรีส์ รวมถึงค่านิยม วัฒนธรรม และลักษณะเฉพาะในซีรีส์แก่ผู้ชมทั่วโลก การแปลชื่อซีรีส์ที่ถูกต้องและเหมาะสมจึงส่งผลอย่างมาก
ต่อความสามารถในการดึงดูดผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชื่อซีรีส์นั้นแปลได้เข้ากับบริบททางวัฒนธรรมของภาษาเป้าหมาย สำหรับผู้ชมชาวไทย การแปลชื่อซีรีส์เกาหลีแนว
ซากึกควรถ่ายทอดความแตกต่างทางภาษาศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาความหมายที่ต้องการสื่อ ในขณะเดียวกันก็สามารถดึงดูดใจผู้ชมชาวไทยได้ด้วย ด้วยเหตุนี้ กลวิธีการแปลแบบต่าง ๆ จึงถูกนำมาใช้ในการแปลชื่อซีรีส์เหล่านี้เพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปซึ่งขึ้นอยู่กับเนื้อหาของซีรีส์และกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อซีรีส์เกาหลีแนวซากึก (เชิงประวัติศาสตร์) จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย โดยเก็บรวบรวมข้อมูลรายชื่อซีรีส์
ที่ปรากฏบนช่องทางสื่อออนไลน์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2024 รวมทั้งสิ้น 147 เรื่อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ตารางการวิเคราะห์กลวิธีการแปล ผลการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาของตารางดังกล่าวซึ่งประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน มีความสอดคล้องในระดับสูง และใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่ ค่าความถี่ และค่าร้อยละในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบกลวิธีการแปลซีรีส์เกาหลีแนวซากึกจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยมีทั้งสิ้น 11 กลวิธี โดยเรียงลำดับจากกลวิธีที่ใช้มากสุดถึง
น้อยสุด ดังนี้ 1. กลวิธีการแปลบางส่วนและเสริมความภาษาไทย 2. กลวิธีการตั้งชื่อใหม่โดยไม่เกี่ยวข้องกับชื่อเดิม 3. กลวิธีการทับศัพท์บางส่วนและเสริมความภาษาไทย
4. กลวิธีการทับศัพท์บางส่วน แปลบางส่วนและเสริมความภาษาไทย 5. กลวิธีการตั้งชื่อใหม่โดยใช้คำที่มีเค้าความหมายเดิม 6. กลวิธีการแปลตรงตัวและเสริมความภาษาไทย
7. กลวิธีการทับศัพท์ทั้งหมดและเสริมความภาษาไทย 8. กลวิธีการแปลตรงตัวและไม่มีเสริมความภาษาไทย 9. กลวิธีการทับศัพท์บางส่วน แปลบางส่วนและไม่มีเสริมความภาษาไทย 10. กลวิธีการแปลบางส่วนและไม่มีเสริมความภาษาไทย และ 11. กลวิธีการทับศัพท์บางส่วนและไม่มีเสริมความภาษาไทย

เอกสารอ้างอิง

กรุณพร เชษฐพยัคฆ์. (2564). SAGEUK—KOREAN HISTORY THROUGH ENTERTAINMENT MEDIA ซีรีส์เกาหลีแนวประวัติศาสตร์ย้อนยุคที่เป็นมากกว่าสื่อบันเทิง. https://cont-reading.com/context/sageuk-kulture/

กาญจนา นาคสกุล. (2541). ระบบเสียงภาษาไทย (พิมพ์ครั้งที่ 4). โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ขนิษฐา สุวรรณประชา, มินตรา ไชยชนะ, และเบญญาภา ศักดาศรี. (2567). การวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อภาพยนตร์ฮอลลีวูดจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยใน Netflix. วารสารทีทัศน์วัฒนธรรม, 23(1), 66 -89.

นิศารัตน์ โอทอง, ณัฏฐิกา บุญรัศมี, ศุภวิชญ์ ประสิทธิ์วณิช, และฮาริศ อาแว. (2566). กลวิธีการแปลชื่อภาพยนตร์ใน Netflix จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย. วารสารอักษราพิบูล, 4(1), 89-106.

รุจนี จีระกมล. (2565). กลวิธีการแปลชื่อละครเกาหลีบนเว็บไซต์เน็ตฟลิกซ์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 13(1), 135 -157.

รุสนี มะแซ, มูซัยนะห์ สาแม็ง, ซูรียาตี มานี, จิตสุดา ละอองผล, และวรเวทย์ พิสิษ ยศศิริ. (2561).การวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย. ในรายงานการประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 9 (หน้า 111-118). มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

เลเดแรร์. (2540). การแปลคือการถ่ายทอดความหมายมิใช่การถ่ายภาษา. ใน นพพร ประชากุล (บรรณาธิการ), ศาสตร์การแปล: รวมบทความเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ (จิระพรรษ์ บุณยเกียรติ,ผู้แปล,หน้า1-43). คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Catford, J. C. (1965). A linguistic theory of translation. Oxford University Press.

Newmark, P. (2001). A textbook of translation. Shanghai Foreign Language Education Press.

Nida, E. (1982). The Theory and Practice of Translation. E. J. Brill.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-27

รูปแบบการอ้างอิง

เลาหพรรค ย. ., กาศลังกา แ., เสียงเย็น ช. ., & รอดแป้น ส. (2025). กลวิธีการแปลชื่อซีรีส์เกาหลีแนวซากึก (เชิงประวัติศาสตร์) จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย. วารสารวิชาการมนุษย์และสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 9(1), 22–41. สืบค้น จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/jhuso/article/view/4314