การอ่านคำภาษาอังกฤษแบบแจกลูกสะกดคำเทียบเสียงแบบ (Phonics) โดยใช้แบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
Reading English words by giving children a spell and sound (Phonics) using skill exercises of students in grade 3
คำสำคัญ:
อ่านคำภาษาอังกฤษแบบแจกลูกสะกดคำ, แบบฝึกทักษะบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาทักษะการอ่านคำภาษาอังกฤษแบบการแจกลูกสะกดคำเทียบเสียงแบบ Phonics ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และหาประสิทธิภาพของแบบฝึกแบบฝึกการอ่านคำภาษาอังกฤษแบบการแจกลูกสะกดคำเทียบเสียงแบบ (Phonics) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวาใหญ่ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 15 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 และใช้วิธีในการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เนื่องจากมีนักเรียนร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งชั้นเรียน อ่านออกเสียงคำสะกดไม่ได้ จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบฝึกทักษะการอ่านคำภาษาอังกฤษแบบแจกลูกสะกดคำเทียบเสียงแบบ Phonic การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
- 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านออกเสียงสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แสดงให้เห็นว่าในการทดสอบก่อนเรียนนักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำได้เฉลี่ย 7 คะแนนจากคะแนนเต็ม 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 34.00 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.46 และเมื่อทำการทดสอบหลังเรียนนักเรียนสามารถอ่านออกเสียงได้เฉลี่ย 4.2 คะแนนคิดเป็น ร้อยละ 84.00 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.6 ทั้งนี้ผลต่างของค่าคะแนนทั้งสอง ครั้งเฉลี่ย 2.50 แสดงว่าหลังจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะและสอนซ่อมเสริมแล้ว นักเรียนมีทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำที่ดีขึ้น
- แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 ร้อยละ 80/80 ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ แสดงให้เห็นว่า ผลของการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 ร้อยละ 80/80 กล่าวคือ อัตราส่วนระหว่างค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนการทดสอบท้ายบทเรียน และค่าเฉลี่ยร้อยละของ คะแนนการทดสอบหลังเรียนมีค่า 80.00/81.00 ซึ่งหมายถึง แบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพที่ สามารถนำไปใช้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้ ทดสอบหลังเรียนมีค่า 80.00/81.00 ซึ่งหมายถึงแบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพที่ สามารถนำไปใช้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้ ทดสอบหลังเรียนมีค่า 80.00/81.00 ซึ่งหมายถึงแบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพที่ สามารถนำไปใช้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
จีรนันท์ เมฆวงษ์. (2547). การพัฒนาความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษและความคงทนในการเรียนรู้คำศัพท์ด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิกส์. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ดวงใจ ตั้งสง่า. (2555-2556). โฟนิคส์คืออะไร ทำไมต้องเรียน. (ออนไลน์). สืบค้นจากhttp://taamkru.com/th/โฟนิคส์คืออะไร -ทำไมต้องเรียน/. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563.
ปริญดา สากระแส. (2555). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปของ นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการอ่านและเขียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย.
อัจจิมา ไชยชิต. (2563). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคาศัพท์ภาษาอังกฤษ (Phonics) โดยใช้แบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 : โรงเรียนวัดเสาธงนอก.