การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดกิจกรรมเป็นฐาน (ABL) เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักศึกษาครู
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดกิจกรรมเป็นฐาน (ABL) เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักศึกษาครู 2) เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดกิจกรรมเป็นฐาน (ABL) เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักศึกษาครู กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาครู สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาชีววิทยาสำหรับครู 1 ภาคเรียนที่ 1/2568 จำนวน 24 คน ได้มาจากวิธีการ
สุมแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น คู่มือการนำรูปแบบไปใช้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ และแบบประเมินความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียววัดหลังการทดลอง (The One-Shot Case Study)
ผลการวิจัย พบว่า 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดกิจกรรมเป็นฐาน (ABL) เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักศึกษาครู มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. หลักการ 2. วัตถุประสงค์ 3. กระบวนการจัดการเรียนการสอน 4. ทรัพยากรและปัจจัยที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และ 5. การวัดและประเมินผล โดยมีกระบวนการจัดการเรียนการสอน 5 ขั้นตอนสำคัญ คือ ขั้นนำและกระตุ้นความสนใจ (Engagement), ขั้นศึกษาและสืบค้น (Exploration), ขั้นกิจกรรมและอภิปราย (Activity and Discussion), ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนคิด (Reflection) และขั้นประเมินผลและประยุกต์ใช้ (Application) 2) ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ พบว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักศึกษาครู หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับดีมาก และความพึงพอใจของนักศึกษาครูในการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดกิจกรรมเป็นฐานฯ อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารครุศาสตร์เล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยนครพนม และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว