กฎหมายอวกาศและการดำเนินการเมื่อได้รับความเสียหายจากวัตถุอวกาศตกลงบนพื้นผิวโลกและหรือห้วงอากาศ: กรณีศึกษาการตกของสถานีอวกาศเทียนกง-1
DOI:
https://doi.org/10.14456/mfulj.2018.7คำสำคัญ:
กฎหมายอวกาศ, วัตถุอวกา, ความเสียหาย, พื้นผิวโลกหรือห้วงอากาศบทคัดย่อ
วัตถุอวกาศที่ตกลงบนพื้นผิวโลกและหรือห้วงอากาศนั้นพบว่าวัตถุอวกาศส่วนใหญ่ที่ตกนั้นจะเป็นขยะอวกาศที่เกิดมาจากชิ้นส่วนของตัวดาวเทียมและจรวดนำส่งวัตถุอวกาศ แต่ที่จะไม่ได้พบบ่อยคือ การตกของสถานีอวกาศ สำหรับการปรับใช้กฎหมายอวกาศกับกรณีความเสียหายจากวัตถุอวกาศนั้นสามารถแบ่งออกได้ 3 กรณี โดยพิจารณาจากการที่รัฐผู้ส่งและหรือรัฐที่เป็นเจ้าของวัตถุอวกาศกับรัฐที่ได้รับความเสียหายจากวัตถุอวกาศนั้นได้เข้าเป็นภาคีสมาชิกของความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับอวกาศของสหประชาชาติ (สนธิสัญญาอวกาศ ค.ศ. 1967 และอนุสัญญาว่าด้วยความรับผิดระหว่างประเทศต่อความเสียหายที่เกิดจากวัตถุอวกาศ ค.ศ. 1972) หรือไม่ รวมถึงประเด็นความรับผิดระหว่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนกรณีความเสียหายจากวัตถุอวกาศของตน ถ้าหากสถานีอวกาศเทียนกง-1 ตกลงบนดินแดนของประเทศไทยและก่อให้เกิดความเสียหาย และจากเหตุการณ์การตกของสถานีอวกาศเทียนกง-1 ครั้งนี้ ทำให้ประเทศไทยควรที่จะพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าเป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาว่าด้วยความรับผิดระหว่างประเทศต่อความเสียหายที่เกิดจากวัตถุอวกาศ ค.ศ. 1972 เนื่องจากจะช่วยคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนชาติไทยจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากวัตถุอวกาศ เพราะว่ากิจกรรมอวกาศนั้นมีความเสี่ยงภัยค่อนข้างสูงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อมวลมนุษยชาติได้
Downloads
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2018 วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.