แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนที่มีอากาศร้อนสูง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2

ผู้แต่ง

  • วีระพงษ์ จิโนปง หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา วิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา
  • กษิฎิฏฏ์ มีพรหม หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา วิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา

คำสำคัญ:

การบริหารสภาพแวดล้อม, สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน, แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อม, โรงเรียนที่มีอากาศร้อนสูง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นของการบริหารสภาพแวดล้อมภายใน ของโรงเรียนที่มีอากาศร้อนสูง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 และ 2) นำเสนอแนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมภายในของโรงเรียนที่มีอากาศร้อนสูง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จากโรงเรียนในตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จำนวน 5 โรงเรียน รวม 89 คน ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางแอ่ง ภูมิประเทศที่มีอุณหภูมิสูง โดยใช้การเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐานและการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของการบริหารอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดคือการคุ้มครองแหล่งน้ำ ส่วนที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด คือ การตรวจสอบผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและการฝึกอบรมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยลำดับคะแนนเฉลี่ยเหมือนกับสภาพปัจจุบัน สำหรับความต้องการจำเป็น พบว่าด้านที่มีความต้องการสูงสุดคือการตรวจสอบผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความต้องการต่ำสุดคือการคุ้มครองแหล่งน้ำ สุดท้ายแนวทางการบริหารที่เสนอประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถด้านการปรับตัวต่อภูมิอากาศ การจัดการพื้นที่ภายนอกอาคาร และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลสิ่งแวดล้อมโรงเรียน

เอกสารอ้างอิง

กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561. (2561, 23 กุมภาพันธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 135 ตอนที่ 11 ก. หน้า 3-5.

กรมอุตุนิยมวิทยา. (2567). ประกาศเริ่มต้นฤดูฝน ปี พ.ศ. 2567. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. สืบค้น 26 ตุลาคม 2567 จาก https://www.tmd.go.th/warning-and-events/special-events/ประกาศเรมตนฤดฝน-ป-พ-ศ-2567.

คณิต สุขรัตน์, พรรัชต์ ลังกะสูตร และเดชา พวงงาม. (2560). สภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่ส่งผลภาวะผู้นำคุณภาพของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนในจังหวัดปทุมธานี. วารสารบริหารการศึกษา มศว, 14(27), 72–78.

ชูพงษ์ ทองคำสมุทร. (2553). แนวทางการออกแบบอาคารเรียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ กรณีศึกษา อาคาร 40 ปี สาธิตศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารวิชาการสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย, 9(1), 1–13.

พระปลัดเขตขันท์ คนงานดี และศักดิ์ดา งานหมั่น. (2567). การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สนับสนุนการพัฒนาผู้เรียน. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 6(2), 471-482.

พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545. (2545, 31 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 119 ตอนที่ 128. หน้า 11-14.

พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์. (2553). การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน: พื้นฐานการศึกษาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (พิมพ์ครั้งที่ 2). คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พิมพ์ชนก สีหา และสุภาวดี บาลี. (2564). แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจความต้องการและความคาดหวัง. สวนดุสิตโพล. สืบค้น 26 ตุลาคม 2567 จาก https://dusitpoll.dusit.ac.th/KB/2021/594/?utm_source=chatgpt.com.

รัตนา ศิริพานิช. (2533). หลักการสร้างแบบสอบวัดทางจิตวิทยาและทางการศึกษา. เจริญวิทย์การพิมพ์.

วรรณมณี โพธิพันไม้. (2561). การศึกษาการบริหารสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาของผู้บริหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31. สิกขา วารสารศึกษาศาสตร์, 5(2), 29-36.

สุนทรียา บุญตา และภาวิดา ธาราศรีสุทธิ. (2564). ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการจัดสภาพแวดล้อมของผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนในกลุ่มอำเภอพระสมุทรเจดีย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1. Journal of Roi Kaensarn Academi, 6(1), 169–183.

สุรีพรรณ์ สุพรรณสมบูรณ์. (2560). การสำรวจคุณภาพสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน กรณีศึกษา: ห้อง 1712

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ. วารสารวิชาการ สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย, 16(2), 77–93.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2. (2567). รายงานผลการปฏิบัติงานรอบ 12 เดือน. สืบค้น 26 ตุลาคม 2567 จาก https://www.lpg2.go.th/รายงาน12เดือน/.

สุพล เชื่อมพงษ์. (2561). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนสีเขียวแบบมีส่วนร่วมโดยใช้หลักการ CSR. วารสารวิชาการ การจัดการเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 5(1), 183-193.

Asian Development Bank. (2016). School sector program: Environmental management framework (Project No. 35174-082). https://www.adb.org/documents/nepal-school-sector-program.

Ballantyne, R., & Packer, J. (2002). Using a constructivist research methodology to inform the design of environmental interpretation: A case study of an environmental education program for visitors to a wildlife sanctuary. Visitor Studies Today, 5(1), 16–21.

Blanchard, K. (2007). The heart of a leader: Insights on the art of influence (2nd ed). David C. Cook.

Sadik, F., & Sadik, S. (2014). A study on environmental knowledge and attitudes of teacher candidates. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 116, 2379–2385. https://doi.org/10.1016/j.sbspro.2014.01.577

Ohler, A. M., & Billger, S. M. (2014). Does environmental concern change the tragedy of the commons? Factors affecting energy saving behaviors and electricity usage. Ecological Economics, 107, 1–12.

Organ, D.W. (1988). Organizational citizenship behavior: The good soldier syndrome. Lexington Books.

UNICEF. (2021). The climate crisis is a child rights crisis: Introducing the children’s climate risk index. UNICEF. https://www.unicef.org/reports/climate-crisis-child-rights-crisis.

Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis (2nd ed). John Weather Hill.

Yu, X. (2014). Is environment ‘a city thing’ in China? Rural–urban differences in environmental attitudes. Journal of Environmental Psychology, 38, 39–48.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-29

รูปแบบการอ้างอิง

จิโนปง ว., & มีพรหม ก. (2025). แนวทางการบริหารสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนที่มีอากาศร้อนสูง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 5(4), 1499–1512. สืบค้น จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/JMSSNRU/article/view/5200