การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและการส่งออกในอำเภอฉวางจังหวัดนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
การพัฒนาผลิตภัณฑ์, ผลิตภัณฑ์ชุมชน, นักท่องเที่ยวบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและศักยภาพของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและการส่งออก 2) ศึกษาองค์ประกอบผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวและลูกค้าในต่างประเทศ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อเพิ่มมูลค่ารองรับนักท่องเที่ยวและการส่งออก โดยใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสาน โดยใช้แบบสัมภาษณ์กับกลุ่มตัวอย่าง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มวิสาหกิจชุมชน บุคลากรสำนักงานเกษตรอำเภอ บุคลากรสำนักงานพัฒนาชุมชน ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน และแบบสอบถามกับกลุ่มนักท่องเที่ยว จำนวน 340 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) นักท่องเที่ยวที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย มีอายุอยู่ในช่วง 31 – 40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี
มีรายได้เฉลี่ย 20,001 – 40,000 บาท สถานภาพสมรส 2) ปัจจัยด้านองค์ประกอบผลิตภัณฑ์ชุมชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสำคัญในระดับมากที่สุด คือ ด้านผลิตภัณฑ์ที่คาดหวัง รองลงมาคือ ด้านศักยภาพผลิตภัณฑ์ โดยที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนประเภทอาหาร ซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อใช้ในครอบครัว ใช้เงินซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนเฉลี่ย 501 - 1,000 บาท อิทธิพลในการตัดสินใจซื้อจากตัวเอง เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนจากร้านขายของฝาก ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุมชนจากสื่อออนไลน์ 3) แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ควรออกแบบตราสินค้าและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย ใช้งานสะดวก มีความโดดเด่น สะดุดตา และจดจำได้ง่าย รวมถึงการสร้างเรื่องราวให้กับผลิตภัณฑ์
เอกสารอ้างอิง
กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). ทำดีเพื่อเจ้าพ่อหลวง: เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2544. กรุงเทพฯ: กรมวิทยาศาสตร์บริการ.
เกศทิพย์ กรี่เงิน, สมภพ สุวรรณรัฐ และสุวรรณา นาควิบูลย์วงศ์. (2561). ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย ของผู้บริโภค. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 12(1), 183 – 198.
จิตพนธ์ ชุมเกตุ. (2560). การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการจัดการชุมชนอย่างยั่งยืนของชุมชนไทยมุสลิม อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชนัฐ เกิดประดับ. (2557). การตลาดเล่มเดียวจบ. ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์.
ทาริกา สระทองคำ, อนงค์ ไต่วัลย์ และอมร ถุงสุวรรณ. (2565). รูปแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าในยุคอนาคต. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8(1), 239 – 250.
ธงชัย สันติวงษ์. (2546). การบริหารเชิงกลยุทธ์. ไทยวัฒนาพินิช.
นฤมล ญาณสมบัติ และเจนวิชญ์ ทองอ่อน. (2564). การเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยใช้ตราสัญลักษณ์และเครื่องมือทางการค้า. วารสารวิทยาการจัดการปริทัศน์, 23(2), 281 - 294.
วรีวรรณ เจริญรูป จรัสศรี โนมี นิติศักดิ์ เจริญรูป และภูวเรศ เทพกร. (2562). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม: กรณีศึกษาตุงล้านนา. วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, 6(2), 315-330.
ศิรินาฏ จันทนะเปลิน สุเมธี เกียรติเฉลิมคุณ มงคลกร ศรีวิชัย และปองสุข ศรีชัย. (2567). กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อพัฒนาจัดการแหล่งท่องเที่ยว หลังสถานการณ์ COVID-19 ภายใต้เงื่อนไขการรีวิวจากสื่อออนไลน์ด้วย วิจัยการตลาด Sentiment Analysis ผ่านกลไก Chat GPT กรณีศึกษา ตลาดกลางคืนเชียงรายไนท์บาซาร์. วารสารวิชาการการตลาดและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีธัญบุรี, 11(2), 24 - 39.
สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2566). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570). สืบค้น 1 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.nesdc.go.th/the-national-economic-and-social-development-plan/the-thirteenth-plan-2023-2027/.
อรัญ วาณิชกร. (2559). การออกแบบผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อัจจิมา ศุภจริยาวัตร. (2565). แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อการส่งออก กรณีศึกษากลุ่มผ้าไหมทอมือบ้าน สุขสำราญ จังหวัดสระแก้ว. วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ, 5(1), 429 - 444.
Cochran, W. G. (1953). Sampling techniques. John Wiley & Sons.
Kotler, P., & Armstrong, G. (2008). Principles of marketing (12th ed). Pearson Education Limited.
Kuester, S. (2012). MKT 301: Strategic marketing & marketing in specific industry contexts.University of Mannheim.
Porter, M. E. (1990). The competitive advantage of nations: With a new introduction. Free Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เป็นทัศนะ ลิขสิทธิ์ และความรับผิดชอบของผู้เขียนเจ้าของผลงาน


