การป้องกันและแก้ไขปัญหาการกระทบสิทธิมนุษยชน ในภาคปฏิบัติตามปกติของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (ในชั้นก่อนฟ้องและชั้นพิจารณาพิพากษาคดี)

ผู้แต่ง

  • คณพล จันทน์หอม คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ชัชพล ไชยพร สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
  • ปราโมทย์ เสริมศีลธรรม คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ณัชพล จิตติรัตน์ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • Lasse Schuldt คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

DOI:

https://doi.org/10.14456/mfulj.2025.16

คำสำคัญ:

สิทธิมนุษยชน, กระบวนการยุติธรรมทางอาญา, การละเลยสิทธิ, การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, หลักกฎหมายสากล

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาและวิเคราะห์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเน้นพฤติกรรมการ “ละเลย” หรือ “เพิกเฉย” ต่อสิทธิของบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นธรรมและประสิทธิภาพของกระบวนการดังกล่าว งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ผ่านการศึกษาวรรณกรรม เปรียบเทียบกับหลักกฎหมายสากลของประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และฝรั่งเศส ตลอดจนสัมภาษณ์เชิงลึกและการประชุมกลุ่มย่อยกับผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง

ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการละเลยสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ได้แก่ (1) ทัศนคติของเจ้าหน้าที่ที่มีอคติล่วงหน้า (2) แนวปฏิบัติที่ปฏิบัติกันมาโดยมิได้แก้ไขปรับปรุง (3) ข้อจำกัดของกฎหมายและระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการคุ้มครองสิทธิของประชาชน (4) การขาดความตระหนักของเจ้าหน้าที่ต่อสิทธิของผู้เกี่ยวข้องในคดีอาญา และ (5) การขาดแคลนทรัพยากรรวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่จำกัด

จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาและแนวปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ชั้นตำรวจ ชั้นพนักงานอัยการ และชั้นศาล พบว่ามีจุดอ่อนสำคัญ เช่น การเรียกผู้ต้องหามาเป็นพยานก่อนแจ้งข้อกล่าวหา การสอบสวนที่กระทบความเป็นส่วนตัว การสอบปากคำโดยไม่คำนึงถึงสภาพของผู้เสียหายและพยาน การขอฝากขังโดยไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหา และการดำเนินคดีที่ล่าช้าโดยไม่จำเป็น งานวิจัยนี้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ได้แก่ การปรับปรุงระเบียบปฏิบัติให้สะท้อนเจตนารมณ์ของสิทธิมนุษยชน การพัฒนากลไกกำกับดูแล การเพิ่มการใช้เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส และการให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชน

ข้อเสนอแนะของงานวิจัยมุ่งเน้นการปรับปรุงแนวปฏิบัติในกรอบของกฎหมายปัจจุบัน โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายชั้นพระราชบัญญัติขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในระยะเวลาอันใกล้ และเสริมสร้างระบบยุติธรรมทางอาญาของไทยให้มีความสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนในระดับสากล

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

เข็มชัย ชุติวงศ์, เอกสารวิชาการส่วนบุคคล ชื่อบทความ “หลักนิติธรรมกับการสั่งคดีของพนักงานอัยการ”, (กรุงเทพมหานคร: สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ, 2540).

ชัยเกษม นิติสิริ, ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ภาค 2 สอบสวน, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพมหานคร: สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2552).

ธานิศ เกศวพิทักษ์, คำอธิบายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เล่ม 2, พิมพ์ครั้งที่ 14 (กรุงเทพมหานคร: สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2561).

ธานิศ เกศวพิทักษ์, คำอธิบายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เล่ม 1, พิมพ์ครั้งที่ 16 (กรุงเทพมหานคร: สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, 2564).

ปกป้อง ศรีสนิท, สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา, (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์วิญญูชน, 2563).

พิมพ์รภัส ศรีธนานุวัตร, ปัญหาการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา ด้วยระบบประเมินความเสี่ยงในชั้นพิจารณาคดีของศาล, วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, ปีที่ 49 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566).

ภรณ์ทิพย์ มั่นคง, มันทำร้ายเราได้แค่นี้แหละ, พิมพ์ครั้งที่ 4 (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อ่าน, 2564).

มุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ และธัญญานุช ตันติกุล, ปล่อยชั่วคราวหรือขังชั่วคราว? : ความย้อนแย้งของการฝากขังและการปล่อยชั่วคราวในกฎหมายไทย [ออนไลน์], แหล่งที่มา: https://dunlaphaha.coj.go.th/articles/12

อุทัย อาทิเวช, การสอบสวน, พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรุงเทพมหานคร: หจก. วี.เจ.พริ้นติ้ง, 2565).

P. A. J. Waddington, Police (Canteen) Sub-Culture: An Appreciation, The British Journal of Criminology, Volume 39 Issue 2 (March 1999).

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

20.07.2025

รูปแบบการอ้างอิง

จันทน์หอม คณพล, ไชยพร ชัชพล, เสริมศีลธรรม ปราโมทย์, จิตติรัตน์ ณัชพล, และ Lasse Schuldt. 2025. “การป้องกันและแก้ไขปัญหาการกระทบสิทธิมนุษยชน ในภาคปฏิบัติตามปกติของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (ในชั้นก่อนฟ้องและชั้นพิจารณาพิพากษาคดี)”. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 8 (2):378-92. https://doi.org/10.14456/mfulj.2025.16.