THE DEVELOPMENT OF HOMESTAY MODEL OF COMMUNITY ENTERPRISE FOR STONE BRIDGE ECOTOURISM TO CERTIFY THAI HOMESTAY STANDARDS
Main Article Content
Abstract
Thai homestay tourism requires to develop homestay to achieve Thai Homestay Standards, preparedness to serve tourists and public relations through offline and online channels for increasing tourists to the community. This research aimed to 1) study the potential of Homestay of Saphan Hin Eco-tourism Community Enterprise 2) develop a homestay model of Saphan Hin Eco-tourism Community Enterprise. Data were collected by conducting a survey, interview, group discussion by 10 group members and analyzing data using Content Analysis. The results showed that the strength of the homestay group are as follows: group leaders have: 1) strong leadership 2) good management and system 3) readiness to learn new things. For the weakness including: 1) the distance of attractions and the homestay are far away and complicated to travel 2) the communication and coordination are difficult. For the opportunities including: 1) tourists have the new trend to experience the folkways 2) the destination has the public relations through social media. For the obstacle including: 1) Covid-19 pandemic 2) inconvenient transportation 3) traveling changes according to the trends. According to Thai Homestay Standards, there are 10 standard indexes, including 1) accommodation 2) food 3) safety 4) hospitality of the host and members 5) tour programs 6) natural resources or environment 7) culture 8) value creation and value of community products 9) group management 10) public relations. When considering each index found that ranking from the top 5 average points are 1) food 2) accommodation 3) tour programs 4) hospitality of the host and members 5) culture, respectively. It can be seen that the members of the group have been involved in the development of Saphan hin homestays by applying knowledge from the classroom and seeking help from various external organizations in order to create homestay development to Thai Homestay Standards that will be able to increasingly attract tourists to stay and travel in Ban Non Sawan, where people in the community will have extra income and the community enterprise will grow in business and has profit, increasingly.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ ไม่ใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้จัดทำ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนบทความแต่ละท่าน
References
กนกรัตน์ ดวงพิกุลและคณะ. (2561). โฮมสเตย์กับการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดน่าน, เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา.
กรประพัสสร์ เขียวหอม และพรพันธุ์ เขมคุณาศัย. (2560). องค์ความรู้งานวิจัยโฮมสเตย์ในบริบทของสังคมไทย (พ.ศ. 2544 - 2558). ใน การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 8, หน้า 161-173. สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
กรวรรณ สังขกร. (2555). ความรู้พื้นฐานและมาตรฐานการจัดโฮมสเตย์. เอกสารประกอบการบรรยาย. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
กาญจนา สุคัณธสิริกุล. (2556). การพัฒนาศักยภาพการตลาดบริการของโฮมสเตย์ที่ได้รับรองมาตรฐานในจังหวัดนครราชสีมา. นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุนารี.
การท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวง. (2558). มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย Thailand Homestay Standard. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
จามจุรี ผาสุราช และ ศรัญญา สุขประเสริฐ. (2562). ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวคำชะโนด: กรณีศึกษาบ้านโนนเมือง ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 1(5), 49-60.
ทิวาวัลย์ ต๊ะการ บังอร ฉัตรรุ่งเรือง เสมอแข สมหอม และณัฐิยา ตันตรานนท. (2559).การพัฒนาแบบประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยสำหรับการพัฒนาระบบการให้คำแนะนำในการเข้ารับการตรวจประเมินเพื่อให้ได้การรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ครั้งที่ 3, หน้า 127-140. กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
ปานแพร เชาว์ประยูร และคณะ. (2556). การประเมินการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบท บ้านเมืองขอน ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
พัฒนาบริการท่องเที่ยว, สำนักงาน. (2555). ขอความร่วมมือแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยระดับจังหวัด. กรุงเทพฯ: สำนักงานพัฒนาบริการท่องเที่ยว.
พิมพ์พิศา จันทร์มณี. (2562). แนวทางการพัฒนาโฮมสเตย์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชน วอแก้ว อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง, รายงานวิจัย วิทยาลัยอินเตอร์เทคลำปาง.
ศศิประภา พรหมทอง และคณะ. (2562) .การพัฒนาศักยภาพการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน: กรณีศึกษาแหล่งท่องเที่ยวสะพานหิน ตำบลท่าลี่ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี. รายงานวิจัย คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
สริตา ศรีสุวรรณ และคณะ. (2562). แนวทางการจัดการที่พักแบบโฮมสเตย์ให้คงเสน่ห์ และแตกต่างอย่างมีอัตลักษณ์เพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. รายงานวิจัย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.