แรงจูงใจ พฤติกรรมและความตั้งใจเชิงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ในชุมชนคาร์บอนต่ำจังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจ พฤติกรรม และความตั้งใจเชิงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในชุมชนคาร์บอนต่ำจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างคือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในชุมชนคาร์บอนต่ำจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 400 คน และสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า แรงจูงใจหลักของนักท่องเที่ยวคือความปรารถนาที่จะได้รับประสบการณ์แปลกใหม่และแตกต่าง ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52) รองลงมาคือความต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่และศึกษาวัฒนธรรม (
= 4.14) และความต้องการแสวงหาความสุขทางใจ เช่น การทำบุญ (
= 3.57) ด้านพฤติกรรมการท่องเที่ยว พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการท่องเที่ยวและเยี่ยมชมสถานที่ (ร้อยละ 74.50) โดยเดินทางเป็นครั้งคราวร่วมกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน (ร้อยละ 37.00) ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นพาหนะหลัก (ร้อยละ 37.25) ระยะเวลาในการเดินทางส่วนใหญ่ประมาณ 2 วัน (ร้อยละ 42.75) มีค่าใช้จ่ายอยู่ในช่วง 1,001-5,000 บาท (ร้อยละ 39.00) และรับข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวจากสื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก (ร้อยละ 52.50) สำหรับความตั้งใจเชิงพฤติกรรม พบว่านักท่องเที่ยวมีความตั้งใจกลับมาท่องเที่ยวซ้ำในอนาคตอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.43) มีความเต็มใจแนะนำและบอกต่อประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับเพื่อนและคนรู้จัก (
= 4.49) และมีความภูมิใจในการบอกเล่าประสบการณ์ที่ดี (
= 4.24) ผลการวิจัยนี้สะท้อนถึงศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ในชุมชนคาร์บอนต่ำจังหวัดมหาสารคาม และบ่งชี้โอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้
ไม่ใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้จัดทำ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนบทความแต่ละท่าน
เอกสารอ้างอิง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2566). แผนส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2565). แผนปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2564-2573. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
กุลธิดา ยามีและชัยธวัช ศิริบวรพิทักษ์ (2567). แรงจูงใจและตราสินค้าที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจเชิงพฤติกรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม. วารสารช่อพะยอม, 34(1), 136-149.
กัลยกร วงศ์วิทย์วิโชติ และจารุพร ตั้งพัฒนกิจ. (2566). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจเชิงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยในการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ: กรณีศึกษาจังหวัดชลบุรี. วารสารการจัดการสมัยใหม่, 21(2), 1-16.
กมลชนก สุขสมัยและวรรณา ศิลปอาชา. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของนักท่องเที่ยวชาวไทย: กรณีศึกษาจังหวัดสุโขทัย. วารสารการท่องเที่ยวไทยนานาชาติ, 19(1), 1-20.
ชิดชม กันจุฬา. (2564). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการมาท่องเที่ยวซ้ำของนักท่องเที่ยว กรณีศึกษาเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี.วารสารเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน, 2(1), 13-25.
ธนพล แสงจันทร์ และ พิมพ์ระวี โรจน์รุ่งสัตย์. (2565). พฤติกรรมและแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวเจเนอเรชันวายในการท่องเที่ยวเชิงอาหารในประเทศไทย. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 16(1), 324-339.
นภัสสร ตื่มสูงเนิน และ ศิริเพ็ญ ดาบเพชร. (2567). แรงจูงใจและพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของผู้สูงอายุในประเทศไทย. วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย, 18(1), 56-72.
แบนเพ็ชร ศ., & แสงพิกุล อ. (2025). การศึกษาแรงจูงใจและปัจจัยความพึงพอใจที่มีอิทธิพลต่อการกลับมาเยือนซ้ำของนักท่องเที่ยวชาวไทย กรณีศึกษา เกาะกระดาน จังหวัดตรัง. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(5), 21–36. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285340
ธิติภาทร ส. . ., & มยุรี ว. . (2024). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจกลับมาท่องเที่ยวซ้ำของนักท่องเที่ยว ในเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี . วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี, 18(2), 189–206. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journaldru/article/view/270687
วงศ์วิทย์วิโชติ ก. ., & ตั้งพัฒนกิจ จ. . (2023). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจเชิงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยในการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ: กรณีศึกษาจังหวัดชลบุรี . วารสารการจัดการสมัยใหม่, 21(2), 1–16. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/stou-sms-pr/article/view/267966
วิภาวี กฤษณะภูติ และ ชลลดา มงคลวนิช. (2566). อิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไทยในยุคหลังโควิด-19. วารสารการจัดการธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 12(2), 82-98.
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2565). รายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
Chaipinit, W., & Phetvaroon, K. (2022). Motivation and behavioral intention of health and wellness tourists in Thailand: The moderating role of perceived risk during the COVID-19 pandemic. Journal of Vacation Marketing, 28(3), 285-302.
Cochran, W. G. (1977). Sampling techniques (3rd ed.). New York: John Wiley & Sons.
Kongprasert, N., & Virutamasen, P. (2023). Exploring the impact of social media influencers on Generation Z tourists' motivation and destination choice in Thailand. Journal of Tourism Futures, 9(2), 221-237.
Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of Psychology, 22 (140), 5-55.
Rittichainuwat, B., & Rattanaphinanchai, S. (2024). Push and pull motivational factors influencing domestic tourism in Thailand: A comparative study of different generations. International Journal of Tourism Research, 26(2), 198-212.
Shrestha, U. R. (2017). Factors affecting tourist travel intention to Nepal after natural disaster. Panyapiwat Journal, 9(2), 232-243. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pimjournal/article/view/97912
Tanford, S., & Jung, S. (2023). Antecedents and consequences of sustainable tourism motivation: A meta-analysis of international tourist behavior. Journal of Travel Research, 62(5), 1021-1038.