การพัฒนาโมเดลส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืนสำหรับครัวเรือนเกษตรกรรายได้น้อย: กรณีศึกษาการแปรรูปปลาส้มในท้องถิ่น จังหวัดอุดรธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโมเดลการส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืนสำหรับครัวเรือนเกษตรกรรายได้น้อย ผ่านกรณีศึกษาการแปรรูปปลาส้มในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่ยังขาดกลไกการจัดการความรู้ที่เป็นระบบ โดยใช้กระบวนการวิจัยแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR) ควบคู่กับการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ (EFA และ CFA) เพื่อระบุองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการส่งเสริมอาชีพ ผลการวิจัยพบว่า โมเดลที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) การดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง (2) การมีคู่มือและแหล่งความรู้ที่ชัดเจน (3) ระบบพี่เลี้ยงในชุมชน (4) การถ่ายทอดองค์ความรู้และการฝึกอบรม และ (5) การยกระดับรายได้และการเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI และการตลาดออนไลน์
การวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของผู้ประกอบการฐานรากที่ยังขาดกลไกการถ่ายทอดความรู้ที่มีมาตรฐาน ระบบจัดการองค์ความรู้ที่เป็นระบบ และรูปแบบธุรกิจที่ตอบสนองต่อการแข่งขันสมัยใหม่ แม้จะมีการพัฒนาในบางมิติแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม ช่องว่างเหล่านี้กลับเปิดโอกาสให้เกิดแนวคิดวิจัยต่อยอด โดยมีข้อเสนอสำคัญ 4 ประการ คือ (1) การสร้าง ระบบพี่เลี้ยงเชิงพื้นที่ (Local Mentoring System) ที่มีมาตรฐาน ทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการถ่ายทอดความรู้ ลดความเหลื่อมล้ำด้านโอกาส และสร้างความน่าเชื่อถือของการเรียนรู้ร่วมในชุมชน (2) การ สกัดและจัดการองค์ความรู้ด้วยเครื่องมือดิจิทัล เช่น AI NLP หรือ CommonKADS เพื่อรวบรวมและแปลงความรู้โดยนัย (tacit knowledge) ของผู้เชี่ยวชาญและชุมชน ให้กลายเป็นฐานข้อมูลที่นำไปใช้และต่อยอดได้จริง (3) การ ออกแบบกิจกรรมถ่ายทอดเชิงปฏิบัติการ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การแปรรูปปลาส้ม การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ ไปจนถึงการตลาดดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดสมัยใหม่ และ (4) การ ทดลองต้นแบบโมเดลธุรกิจ (Business Model Innovation: BMI) ที่พัฒนาผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมและการสะท้อนผลร่วมกันของชุมชน เพื่อสร้างต้นแบบที่สามารถขยายผลสู่ระดับจังหวัดและวางรากฐานความยั่งยืนทางเศรษฐกิจฐานรากได้จริง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้
ไม่ใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้จัดทำ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ และคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนบทความแต่ละท่าน
เอกสารอ้างอิง
ชวัลญ์ญา, & ณัธคพัชฬ. (2564). ผลิตภัณฑ์ปลาส้มสมุนไพรไทยไร้พยาธิปราศจากสารก่อมะเร็ง อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ.
พิทักษ์, อาชัญญา, & ยิ่ง. (2561). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับชุมชนเกษตรกรรมในเขตพื้นที่สูง. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 10(2), 240–252.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2566). รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย 2566. สศช.
Barua, P., & Tejativaddhana, P. (2019). Impact of application of sufficiency economy philosophy on the well‑being of Thai population: A systematic review and meta‑analysis of relevant studies. Journal of Population and Social Studies, 27(3), 195–219. https://doi.org/10.25133/JPSSv27n3.0013
Jalil, A. (2024). Peer-to-peer networks and agricultural conservation [Master's thesis, The Ohio State University].
Jeerat, P., Kruekum, P., Sakkatat, P., Rungkawat, N., & Fongmul, S. (2023). Developing a model for building farmers’ beliefs in the Sufficiency Economy Philosophy to accommodate sustainable agricultural practices in the highlands of Chiang Mai Province, Thailand. Sustainability, 15(1), 511. https://doi.org/10.3390/su15010511
Van den Berg, H., Phillips, S., Dicke, M., & Fredrix, M. (2020). Impacts of farmer field schools in the human, social, natural and financial domain: A qualitative review. Food Security, 12, 1101–1119. https://doi.org/10.1007/s12571-020-01046-7
Wattanakornsiri, A., Pukkalanun, N., & Phimphanthavong, H. (2020). Sufficiency Economy Philosophy for community driven development approach on sustainable local development: Lessons learned and success factors from Sufficiency Economy Villages, Surin Province, Thailand. Journal of Local Governance and Innovation in Social Systems, 4(2), 15–33.
Wordofa, M. G., & Sassi, M. (2017). Impact of farmers’ training centres on household income: Evidence from propensity score matching in eastern Ethiopia. Social Sciences, 7(1), 4. https://doi.org/10.3390/socsci7010004