ภาวะผู้นำกับทักษะการสร้างสันติภาพของผู้นำท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านสังคม และด้านความเป็นผู้นำ ของภาวะผู้นำกับทักษะการสร้างสันติภาพ 2) เพื่อศึกษาความแตกต่างด้านประชากรศาสตร์ของประชาชน ที่มีผลต่อภาวะผู้นำกับทักษะการสร้างสันติภาพ และ 3) เพื่อศึกษาหาแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำกับทักษะการสร้างสันติภาพ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ได้แก่ ประชาชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประเทศไทย จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม ที่สร้างขึ้นโดยการศึกษาเอกสาร ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งได้ครอบคลุมเนื้อหาและวัตถุประสงค์ในการศึกษาตามกรอบแนวคิดของตัวแปรต้นและตัวแปรตาม โดยนำตัวแปรที่วิเคราะห์ได้ทางสถิติไปสร้างแบบสอบถามสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก
ผลการวิจัยพบว่า น้ำหนักปัจจัยเฉลี่ยด้านสังคมทั้ง 4 ด้าน เท่ากับ 3.06 ค่า S.D. เท่ากับ 0.89 แปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่ปัจจัยการยอมรับ ปัจจัยสภาพแวดล้อม และปัจจัยการสนับสนุน เป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักปัจจัยเฉลี่ยสูงที่สุด 3 อันดับแรก โดยมีค่าระดับเฉลี่ยเท่ากับ 3.09, 3.07 และ 3.04 ทั้งหมดแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับและปานกลาง มีค่า S.D. เท่ากับ 0.84, 0.99 และ 0.94 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ปัจจัยการปฏิบัติงาน มีน้ำหนักปัจจัยเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ 3.02 ค่า S.D. เท่ากับ 0.79 ซึ่งแปรผลได้ว่า อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยเฉลี่ยด้านความเป็นผู้นำทั้ง 3 ด้าน เท่ากับ 3.07 ค่า S.D. เท่ากับ 0.86 แปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่ปัจจัยอารมณ์ และปัจจัยทักษะ เป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักปัจจัยเฉลี่ยสูงที่สุด 2 อันดับแรก โดยมีค่าระดับเฉลี่ยเท่ากับ 3.12 และ 3.09 ทั้งหมดแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมากและปานกลาง มีค่า S.D. เท่ากับ 0.85 และ 0.84 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ปัจจัยทัศนคติ มีน้ำหนักปัจจัยเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ 2.99 ค่า S.D. เท่ากับ 0.90 ซึ่งแปรผลได้ว่า อยู่ในระดับปานกลาง ระดับทักษะการสร้างสันติภาพมีน้ำหนักเฉลี่ยทั้ง 5 ด้าน เท่ากับ 3.07 ค่า S.D. เท่ากับ 0.92 ซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่การเรียนรู้ มีน้ำหนักเฉลี่ยสูงที่สุด เท่ากับ 3.11 มีค่า S.D. เท่ากับ 0.95 ซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ การพัฒนา มีน้ำหนักเฉลี่ย เท่ากับ 3.08 มีค่า S.D. เท่ากับ 0.91 ซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง การปรับตัว มีน้ำหนักเฉลี่ย เท่ากับ 3.07 มีค่า S.D. เท่ากับ 0.92 ซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง และการพูด มีน้ำหนักเฉลี่ย 3.06 มีค่า S.D. เท่ากับ 0.88 ซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับ ส่วนประสิทธิภาพมีน้ำหนักเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ เท่ากับ 3.05 มีค่า S.D. เท่ากับ 0.92 ซึ่งแปรผลได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง