การเสริมสร้างความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคของวัยรุ่นพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย โดยใช้การให้การปรึกษาทฤษฎีเน้นทางออกระยะสั้น

Main Article Content

วรานิดา หล่ำเรือง
วรากร ทรัพย์วิระปกรณ์
เพ็ญนภา กุลนภาดล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคของวัยรุ่นที่มีความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายที่ได้รับการปรึกษาตามทฤษฎีเน้นทางออกระยะสั้น (Solution-Focused Brief Therapy: SFBT) ระหว่างก่อนทดลอง หลังทดลอง และระยะติดตามผล และ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมในระยะหลังการทดลองและระยะติดตามผล กลุ่มตัวอย่างคือวัยรุ่นที่มีความพิการทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว อายุระหว่าง 13–18 ปี จากโรงเรียนเฉลียวภาวนานุสรณ์ จำนวน 20 คน คัดเลือกจากผู้ที่มีคะแนนความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคต่ำสุด 20 อันดับแรก จากนั้นสุ่มจับคู่เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 10 คน กลุ่มทดลองเข้าร่วมโปรแกรมการปรึกษากลุ่มตามแนวคิด SFBT จำนวน 8 ครั้ง   ครั้งละ 60–90 นาที กลุ่มควบคุมไม่ได้รับการปรึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โปรแกรมการปรึกษาเชิงกลุ่มตามทฤษฎี SFBT และแบบวัดความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งดัดแปลงมาจาก Adversity Response Profile (ARP) ของ Stoltz (1997) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ (Repeated Measures ANOVA)


ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคในระยะหลังทดลองและระยะติดตามผลสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีคะแนนสูงกว่ากลุ่มควบคุมในระยะหลังการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในระยะติดตามผล     สรุปได้ว่า โปรแกรมการปรึกษาตามแนวคิดทฤษฎีเน้นทางออกระยะสั้นส่งผลเชิงบวกต่อการพัฒนาความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคของวัยรุ่นที่มีความพิการทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
หล่ำเรือง ว. ., ทรัพย์วิระปกรณ์ ว. ., & กุลนภาดล เ. . (2025). การเสริมสร้างความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรคของวัยรุ่นพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย โดยใช้การให้การปรึกษาทฤษฎีเน้นทางออกระยะสั้น. Journal of Dhamma for Life, 31(3), 653–670. สืบค้น จาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/dhammalife/article/view/5373
ประเภทบทความ
บทความวิจัย