นโยบายด้านการลอกเลียนวรรณกรรม

Plagiarism Policy

 

นโยบายการลอกเลียนวรรณกรรม

วารสารสังคมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานทางวิชาการและจริยธรรมในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัย จึงได้กำหนดนโยบายด้านการลอกเลียนวรรณกรรมไว้ เพื่อให้ผู้เขียน ผู้ทรงคุณวุฒิ และกองบรรณาธิการได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติร่วมกัน

คำนิยามของการลอกเลียนวรรณกรรม

การลอกเลียนวรรณกรรม (Plagiarism) หมายถึง การนำผลงานหรือความคิดของผู้อื่นมาใช้โดยไม่มีการอ้างอิงที่เหมาะสม หรือแสดงให้เห็นว่าเป็นผลงานของตนเอง ซึ่งรวมถึง:

  • การคัดลอกข้อความโดยตรงโดยไม่มีการอ้างอิง
  • การนำเสนอแนวคิดของผู้อื่นโดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มา
  • การปรับเปลี่ยนคำหรือโครงสร้างประโยค แต่ยังคงความหมายเดิมโดยไม่มีการอ้างอิง
  • การลอกเลียนผลงานของตนเองที่เคยตีพิมพ์ไปแล้ว (Self-plagiarism) โดยไม่มีการอ้างอิงอย่างเหมาะสม
  • การใช้ข้อมูล ตาราง รูปภาพ หรือแผนภูมิของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการอ้างอิง

กระบวนการตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรม

วารสารฯ ใช้ระบบ ThaiJO ในการจัดการบทความวิชาการ ซึ่งมีการติดตั้ง (plugin) ร่วมกับโปรแกรมตรวจสอบความซ้ำซ้อน CopyCatch (https://www.copycatch.in.th/) เพื่อตรวจสอบการลอกเลียนวรรณกรรมในทุกบทความที่ส่งมาพิจารณาตีพิมพ์

  • ทุกบทความที่ส่งผ่านระบบ ThaiJO จะได้รับการตรวจสอบด้วยโปรแกรม CopyCatch โดยอัตโนมัติ
  • ระบบจะตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับฐานข้อมูลวรรณกรรมทางวิชาการภายในประเทศไทย
  • บทความที่ผ่านการตรวจสอบจะมีรายงานแสดงเปอร์เซ็นต์ความซ้ำซ้อนกับเอกสารอื่นๆ
  • กองบรรณาธิการจะตรวจสอบรายงานดังกล่าวเพื่อประเมินลักษณะและขอบเขตของความซ้ำซ้อน

เกณฑ์การพิจารณาความซ้ำซ้อน

  • บทความที่มีความซ้ำซ้อนต่ำกว่า 10% - โดยทั่วไปจะได้รับการพิจารณาดำเนินการต่อในกระบวนการประเมินคุณภาพบทความ
  • บทความที่มีความซ้ำซ้อนระหว่าง 10-20% - จะได้รับการตรวจสอบโดยละเอียดจากกองบรรณาธิการเพื่อพิจารณาลักษณะของความซ้ำซ้อน
  • บทความที่มีความซ้ำซ้อนสูงกว่า 20% - อาจถูกปฏิเสธโดยไม่ส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณา หรือส่งคืนให้ผู้เขียนแก้ไขก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
  • หมายเหตุ: การอ้างอิงที่เหมาะสม คำศัพท์เฉพาะทาง หรือวลีที่ใช้ทั่วไปในสาขาวิชานั้น ๆ อาจไม่ถูกนับรวมในเปอร์เซ็นต์ความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกองบรรณาธิการ

บทลงโทษกรณีพบการลอกเลียนวรรณกรรม

  • กรณีตรวจพบก่อนการตีพิมพ์:
    • ส่งบทความคืนให้ผู้เขียนเพื่อแก้ไขและให้การอ้างอิงที่เหมาะสม (กรณีความซ้ำซ้อนไม่รุนแรง)
    • ปฏิเสธการตีพิมพ์บทความโดยทันที (กรณีความซ้ำซ้อนรุนแรง)
    • ระงับการพิจารณาบทความจากผู้เขียนเป็นระยะเวลาที่กำหนด (กรณีเจตนาลอกเลียน)
  • กรณีตรวจพบหลังการตีพิมพ์:
    • ประกาศถอนบทความจากวารสาร (Retraction)
    • แจ้งต้นสังกัดของผู้เขียนเกี่ยวกับการลอกเลียนวรรณกรรม
    • ระงับสิทธิ์การส่งบทความของผู้เขียนเป็นระยะเวลาที่กำหนด

ความรับผิดชอบของผู้เขียน

  • รับรองว่าบทความที่ส่งมาเป็นผลงานต้นฉบับและไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน
  • อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล แนวคิด หรือผลงานที่นำมาใช้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
  • ได้รับอนุญาตในการใช้ข้อมูล ตาราง รูปภาพ หรือแผนภูมิที่มีลิขสิทธิ์จากเจ้าของผลงาน
  • เปิดเผยแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยหรือผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การอุทธรณ์

ผู้เขียนสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อกองบรรณาธิการได้ ในกรณีที่เห็นว่าการตัดสินเกี่ยวกับการลอกเลียนวรรณกรรมไม่ถูกต้อง โดยต้องแสดงหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุนการอุทธรณ์ดังกล่าว กองบรรณาธิการจะพิจารณาคำอุทธรณ์และแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบภายใน 30 วันทำการ

นโยบายนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 และอาจมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางวิชาการที่เปลี่ยนแปลงไป กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการตัดสินกรณีที่อาจไม่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้