เกี่ยวกับวารสาร

วารสารสังคมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University Journal of Social Science: CUJSS.) เป็นวารสารวิชาการของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำหนดประเภทบทความที่จะพิจารณาตีพิมพ์เป็น 3 ประเภท ดังนี้ (1) บทความวิจัย (Research article)  (2) บทความวิชาการ (Academic article) และ (3) บทวิจารณ์หนังสือ (Book review)  ทั้งนี้ บทความที่ส่งมาตีพิมพ์กับวารสารฯต้องไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน ออกเผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ (เดือนมิถุนายน และ เดือนธันวาคม) โดยทุกบทความจะได้รับการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่า 3 คน ตามกระบวนการที่กองบรรณาธิการกำหนด

การประเมินบทความ

บทความวิจัยจะได้รับการประเมินแบบ double-blinded peer-reviewed process จากผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่า 3 คนผ่านระบบ ThaiJo2.0

Each research article is double-blinded peer-reviewed by at least three expert reviewers and submission is online via ThaiJo2.0

ประกาศ

ฉบับปัจจุบัน

ปีที่ 55 ฉบับที่ 2 (2025): กรกฎาคม - ธันวาคม 2568
					ดู ปีที่ 55 ฉบับที่ 2 (2025): กรกฎาคม - ธันวาคม 2568

บทบรรณาธิการ

วารสารสังคมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฉบับนี้ต้องบอกว่าคงความหลากหลายขององค์ความรู้ทางสังคมศาสตร์ตั้งแต่ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยในระดับภูมิภาค การกำหนดและการดำเนินนโยบายสาธารณะ ประเด็นทางสังคมร่วมสมัย และ การคลังสาธารณะ  บทความของ William J. Jones และ Chanya Supakul ชื่อ ASEAN Centrality in the Era of Great Power Competition: Hedging for Survival and Prosperity ชี้ให้เห็นว่านโยบายการต่างประเทศของ ASEAN ไม่ได้มาจากอากาศแต่เป็นการสั่งสมของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ที่ผสมผสานระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันกับเอเซียตะวันออกและการรักษายุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคโดยไม่เอนเอียงข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป ส่วนบทความของ ธีรติร์ บรรเทิง  และ พร้อมพรรณ แจ้งการดี ชื่อ การศึกษาภาพลักษณ์ของประเทศจีนผ่านอีสปอร์ต: การสื่อสาร กลยุทธ์การทูต และการตลาดเชิงเนื้อหา ผ่าน Honor of Kings และ Arena of Valor เป็นการวิเคราะห์ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับกิจกรรมสันทนาการสมัยใหม่อย่าง E-Sport โดยเชื่อมโยงให้เห็นว่าจีนกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาและสร้างความเติบโตของ E-Sport เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับประเทศจีนในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้เห็นว่ากิจกรรมสันทนาการมีนัยสำคัญต่อการเมืองระหว่างประเทศ

ในส่วนของการเมืองในการกำหนดและการดำเนินนโยบายสาธารณะ บทความของ พิษณุ เสงี่ยมพงษ์ ชื่อ การเมืองในนโยบายกัญชาของประเทศไทย อธิบายความกำกวมที่เกิดขึ้นในการกำหนดและดำเนินนโยบายกัญชาเสรีในประเทศไทย ด้านหนึ่งรัฐไทยต้องการผลักดันนโยบายกัญชาตามบริบทเสรีนิยม แต่อีกด้านหนึ่งก็ถูกต่อต้านจากความผันผวนและการต่อรองทางการเมืองและความไม่แน่นอนทางวิทยาศาสตร์และการวิจัย จนนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่ไม่ชัดเจนในการดำเนินการ การขับเคลื่อนของภาครัฐและการเสริมสร้างนวัตกรรมและการวิจัย และการร่วมมือกันเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความเติบโตให้กับระบบเศรษฐกิจ บทความของ แววไพลิน พันธุ์ภักดี ชื่อ ปัจจัยเชิงกลยุทธ์และบทบาทของของภาครัฐในการขับเคลื่อนความยั่งยืนขององค์กรธุรกิจ: กรณีศึกษาองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย ชี้ให้เห็นว่า การสนับสนุนจากภาครัฐ การพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ประเด็นทางสังคมร่วมสมัย เช่น สังคมสูงวัย หรือความเปิดรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นงานวิจัยที่ได้รับความสนใจจากนักสังคมศาสตร์ ภาวะสูงวัยยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการวิจัยทางสังคมศาสตร์ในภาวะที่สังคมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ บทความของ ประชาธิป กะทา ชื่อ การเล่นพนันออนไลน์บนแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือในกลุ่มผู้สูงอายุ วิเคราะห์พฤติกรรมการเล่นการพนันออนไลน์ของกลุ่มผู้สูงอายุโดยชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่เป็นแรงจูงใจในการเล่นการพนันออนไลน์ได้แก่ ความชื่นชอบเล่นพนันเป็นทุนเดิม วิถีชีวิตของผู้สูงอายุ รายได้ที่ลดลงหลังเกษียณ และกลยุทธ์การตลาด ดังนั้นนโยบายในการป้องกันการติดการพนันของกลุ่มผู้สูงอายุจะต้องเข้าใจพฤติกรรมและบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนบทความของ อัญชนา สายสร้อย  และ ดารัณ พราหมณ์แก้ว ชื่อ บนแนวทางการจัดสวัสดิการสังคมที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ชี้ให้เห็นว่าการส่งเสริมกิจกรรมการสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว การจัดตั้งศูนย์บริการผู้สูงอายุเพื่อแก้ปัญหาผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง การจัดตั้งศูนย์เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละช่วงอายุ ช่วยสนับสนุนการให้บริการผู้สูงอายุอย่างตรงจุดตามสภาพพื้นที่ การเปิดรับทางวัฒนธรรมเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในระดับภูมิภาค บทความของ ศิริพงศ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ชื่อ การเปิดรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมในฐานะการปฏิบัติการทางสังคมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างคนท้องถิ่นกับผู้อพยพภายใต้ยุคสมัยแห่งการเคลื่อนย้าย: ข้อค้นพบจากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการเข้ามาของผู้อพยพในเอเชียตะวันออก ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการเปิดรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมเกือบทุกรูปแบบ (ยกเว้นการเปิดรับสื่อต่างประเทศ) ได้แก่ การพูดคุยเกี่ยวกับประเด็น/ปัญหาระหว่างประเทศกับผู้อื่น การเดินทางไปต่างประเทศ และการมีคนรู้จักเป็นชาวต่างชาติ ต่างเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลเชิงบวกต่อการยินยอมระดับมากที่จะให้มีผู้อพยพเข้ามาในภูมิภาคดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ระดับการศึกษาที่เพิ่มสูงขึ้นมีอิทธิพลเชิงบวกต่อการยินยอมในระดับมากที่จะให้มีผู้อพยพในพื้นที่ของตน สะท้อนให้เห็นว่าการส่งเสริมคุณภาพทางการศึกษามีอิทธิพลต่อการเปิดกว้างและยอมรับทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย

สุดท้าย บทความของ Charas Suwanmala Weerasak Kruatep และ Umaporn Buengmum ชื่อ The Parliament Budget Office (PBO) and the Shifting Budget Power in Thailand ชี้ให้เห็นว่าสำนักงานการงบประมาณประจำรัฐสภามีส่วนช่วยในการสร้างความเข้มแข็งให้กับกระบวนการจัดทำงบประมาณของรัฐสภาและนำไปสู่การจัดทำงบประมาณที่มีโปร่งใส่ในบริบทที่ฝ่ายบริหารครอบงำการจัดทำงบประมาณ ดังนั้นการเพิ่มอำนาจการจัดทำงบประมาณให้กับสำนักงานการงบประมาณประจำรัฐสภาจะทำให้กระบวนการจัดทำงบประมาณโปร่งใสและมีส่วนร่วมมากขึ้น

ผมหวังว่าบทความทั้ง 8 ฉบับจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ

รองศาสตราจารย์ ดร.ธนพันธ์ ไล่ประกอบทรัพย์
หัวหน้ากองบรรณาธิการ

เผยแพร่แล้ว: 15-12-2025

บทบรรณาธิการ

บทความวิจัย

บทความวิชาการ

ดูทุกฉบับ